- 03 ต.ค. 2563
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2563 ศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ในฐานะผู้ก่อตั้งร้านยิ้มสู้คาเฟ่ ได้ออกมาเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า... ยิ้มสู้คาเฟ เป็นร้านกาแฟสร้างอาชีพให้แก่คนพิการ บาริสต้าของร้านเป็นคนหูหนวก ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณผู้ที่เคยให้การอุดหนุนกาแฟของเรามาโดยตลอด
เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2563 ศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ในฐานะผู้ก่อตั้งร้านยิ้มสู้คาเฟ่ ได้ออกมาเปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า... ยิ้มสู้คาเฟ เป็นร้านกาแฟสร้างอาชีพให้แก่คนพิการ บาริสต้าของร้านเป็นคนหูหนวก ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณผู้ที่เคยให้การอุดหนุนกาแฟของเรามาโดยตลอด
แต่ ณ วันนี้ ผมต้องขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า ร้านยิ้มสู้คาเฟ่ สาขาธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จำเป็นต้องปิดตัวลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในวันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งจะทำให้คนพิการหลายคนที่ปฏิบัติงานอยู่สาขานี้ต้องตกงาน ขาดรายได้ในการเลี้ยงชีพ สาเหตุเนื่องจากทางเจ้าของสถานที่ได้มอบสัมปทานให้แก่ร้านกาแฟอื่นไปเรียบร้อยแล้ว"ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ความพยายามในการหาช่องทางสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่คนพิการ กลับพ่ายแพ้ต่อระบบนายทุนใหญ่ ซึ่งจะส่งผลให้คนพิการจะต้องดำเนินชีวิตด้วยความยากลำบาก"
สุดท้ายนี้ ตนขอให้ทุกท่านช่วยกันเป็นกระบอกเสียง แชร์ข้อความบรรยายจากความรู้สึกของตนที่เต็มไปด้วยความผิดหวังและเสียใจ เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้แก่คนพิการ ในการเรียกร้องโอกาสประกอบอาชีพให้กลับมาเป็นของคนพิการดังเดิม สำหรับท่านใดที่ต้องการอุดหนุนกาแฟของเรา ทางคณะนิติศาสตร์ ได้สั่งให้คนพิการเลิกขายกาแฟที่ร้านนับตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 แต่ต้องจ่ายค่าเช่าเต็มเดือน ดังนั้นอีก 20 วันที่เหลือ เราจึงต้องขายตามซอกตามมุมอย่างยากลำบาก หากไม่ขายจะโดนปรับวันละ 500 บาท แวะมาอุดหนุนและให้กำลังใจร้านยิ้มสู้คาเฟ่ สาขาธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ได้ถึงภายในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ ทั้งนี้จากการเจรจากับทางเจ้าหน้าที่คณะนิติศาสตร์ ได้รับข้อมูลมาใหม่ว่า สามารถให้ขายในร้านได้จนถึงวันที่ 24 พฤศจิกายน 2563