- 09 ต.ค. 2563
ผู้เชี่ยวชาญแนะ วิธีเอาตัวรอด เมื่อคันเร่งค้าง ที่หลายคนไม่เคยรู้
เรียกได้ว่าอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลาและทุกสถานที่ โดยเฉพาะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นโดยยานพาหนะ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ ที่มีสาเหตุมาจากตัวคนขับเองก็ดีหรือความบกพร่องของตัวยานพาหนะก็ดี หลายๆคนคงจะจำเหตุการณ์ระทึกเมื่อเกือบ 3 ปีที่แล้วได้ที่รถเก๋งตกอาคารจอดรถชั้น 7 (3A) ของห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางกะปิได้เป็นอย่างดี
โดยผู้เชี่ยวชาญด้านยานยนต์ออกมาให้ข้อมูลว่ากรณีนี้อาจเกิดจาก "คันเร่งค้าง" ทำให้รถนั้นเร่งตลอดจนเกิดอุบัติเหตุพุ่งตกลงมาข้างล่างและปัญหาด้านเบรก ซึ่งแบ่งออกได้ 2 สาเหตุหลัก คือความผิดพลาดของตัวผู้ขับเอง (Human Error) หรือปัญหาจากตัวรถ นายปรีดา ตันเต็มทรัพย์ ประธานฝ่ายเทคนิคราชยานยนต์สมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์และนายสุรชัย ศิริสัมพันธ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์ ให้ความเห็นกรณีนี้น่าสนใจและสรุปประเด็นได้ว่า
คันเร่งค้าง
1. อาการตกใจเวลาเจอเรื่องกะทันหัน อาจไปเหยียบคันเร่งแทนเบรก
2. ใส่รองเท้าส้นสูงขับรถ เนื่องจากคนขับเป้นผู้หญิง อาจทำให้ส้นรองเท้าไปขัดกับคันเร่ง กว่าจะถอนจากคันเร่งมาเหยียบเบรกก็ไม่ทันแล้ว
3. รถอาจเกิดปัญหาคันเร่งจมค้าง ทำให้แป้นเบรกแข็งจนไม่สามารถใช้เบรก เป็นปกติของตัวรถเพื่อป้องกันการเหยียบเบรกพร้อมคันเร่งอยู่แล้ว
เบรกมีปัญหา
1. เบรกจม (เบรกแตก) ทำให้ห้ามล้อไม่ได้
2. หม้อเบรกมีปัญหา ทำให้เบรกแข็งเกินไปจนหยุดรถไม่ทัน
3. มีขวดน้ำหรือรองเท้าไปยันเบรกไว้
โดยเมื่อเกิดเหตุการณ์คันเร่งค้างขึ้น ในขณะที่คุณขับรถสิ่งที่ต้องทำคือ ตั้งสติให้แน่วแน่ อย่าตกใจจนเกินเหตุเพราะถึงแม้ว่าจะลดความเร็วไม่ได้แต่คุณยังควบคุมพวงมาลัยและทิศทางรถได้รวมถึงการเบรกรถด้วย โดยให้ปฏิบัติตามขั้นตอนดังนี้
1. เข้าเกียร์ว่างทันที
ผลักเกียร์ไปที่เกียร์ N ให้เร็วที่สุด ไม่ต้องนึกถึงว่ารอบสูงหรืออย่างไร เพราะการเข้าเกียร์ว่างจะช่วยชะลอความเร็วได้ หากเป็นรถเกียร์ธรรมดาต้องเหยียบคลัตช์และเปลี่ยนไปเกียร์ว่าง และในขณะนั้นอย่าลืมบังคับพวงมาลัยให้ดี
2. เหยียบเบรก
หลังจากเข้าเกียร์ว่างแล้ว ประคองพวงมาลัยรถให้ดี ค่อยๆ เหยียบเบรกค้างใว้แล้วปล่อย เพื่อชะลอความเร็วไปเรื่อยๆ แต่หากเป็นรถที่มีระบบเบรก ABS ให้เหยียบเบรกค้างไว้ แล้วพยายามหาที่จอดที่ปลอดภัย
3. อย่าดับเครื่องเด็ดขาด
ข้อนี้พึงระวังให้มากที่สุด เพราะเมื่อสติหลุด คุณอาจเผลอดับเครื่อง ต้องทำความเข้าใจว่า หากดับเครื่องจะเบรกไม่ได้ และหักพวงมาลัยไม่ได้ ด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าเมื่อพวงมาลัยล็อก แถมยังเหยียบเบรกไม่ลง อาจทำให้เกิดอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตได้
-หากต้องดับเครื่อง ห้ามถอดกุญแจหรือบิดไปที่ตำแหน่ง lock เพราะพวงมาลัยจะล็อค ระบบช่วยเหลือต่างๆ จะไม่ทำงานซึ่งจะทำให้การควบคุมรถทำได้อยากขึ้น
-หากเป็นรถที่ใช้ปุ่ม Start on/off ให้กดปุ่มแช่ไว้ 3 วินาที ห้ามกดแล้วปล่อย
ทั้งนี้ เทคนิคทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่เราควรรู้ใว้ เพราะอุบัติเหตุมันอาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ อย่างไรแล้วก็ควรเช็ดสภาพรถให้ดีและตั้งสติเอาไว้เสมอเวลาขับรถและทำตามขั้นตอนดังกล่าวเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น แล้วชีวิตของคุณและคนรอบข้างคุณจะปลอดภัย