- 19 ต.ค. 2563
ผบ.ตร. ยัน ยังไม่ยกระดับใช้กฎหมายกับผู้ชุมนุม ด้านชายปาหินใส่ป้อมตำรวจเป็นกลุ่มอาชีวะก่อเหตุใส่คู่อริ
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันที่ 19 ตุลาคม 2563 ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุ ยังไม่จำเป็นต้องยกระดับการใช้กฎหมายกับผู้ชุมนุม เชื่อ การเจรจาสร้างความเข้าใจจะเป็นประโยชน์กว่า พร้อมเตรียมจัดทำวีดีโอ ชี้แจงข้อเท็จจริงการใช้สารเคมีสีฟ้า ในการสลายการชุมนุม
พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่า ขณะนี้ ตำรวจยังคงต้องประเมินสถานการณ์การชุมนุมแบบวันต่อวัน โดยกำชับผู้ปฏิบัติไม่ให้กระทำการเกินกว่าเหตุ เน้นการดูแลทั้งกลุ่มผู้ชุมนุม ประชาชนทั่วไป ไม่ให้ได้รับผลกระทบ ซึ่งการชุมนุมช่วง 2 - 3 วันที่ผ่านมา ผลกระทบจากการชุมนุมลดน้อยลง เนื่องจาก ช่วงเวลาการชุมนุมลดสั้นลง แต่จากการกระจายตัวชุมนุมหลายจุด ก็จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้างมากในอนาคต โดยเฉพาะ ในเรื่องการเส้นทางคมนาคม พร้อมมองว่า ยังไม่จำเป็นต้องยกระดับการบังคับใช้กฎหมายให้เข้มข้นขึ้น เนื่องจาก การเจรจาสร้างความเข้าใจ จะทำให้มีประสิทธิภาพมากกว่า แต่ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้าใจด้วยว่า การชุมนุมทุกวันนี้ เข้าข่ายผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ตำรวจอาจต้องใช้กำลังควบคุมพื้นที่ ซึ่งเป็นเพียงปิดเส้นทางจราจร ไม่ให้มีการเหตุกระทบกระทั่งกับบุคคลอื่นที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ชุมนุม
ส่วนสารสีฟ้า และสารที่ผสมในน้ำที่เกิดการระคายเคือง ที่มีการใช้ในการสลายการชุมนุม เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ระบุว่า กำลังให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง จัดทำคลิปวีดีโอเผยแพร่ให้ประชาชนเข้าใจเหตุผลความจำเป็นในการใช้สารดังกล่าว พร้อมย้ำว่า สารดังกล่าว มีการใช้ในขั้นตอนสลายการชุมนุมทั่วโลก ซึ่งเป็นไปตามหลักสากล
ส่วนกรณีมีการทำลายทรัพย์สินป้อมตำรวจแยกจราจร แยกบางนา เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยืนยัน จากการสอบสวนพบว่า กลุ่มผู้ก่อเหตุ เป็นกลุ่มนักเรียนอาชีวะ ที่ไม่ถูกกัน ประกอบกันเมาสุรา ซึ่งไม่ใช่การกระทำของกลุ่มผู้ชุมนุม ขณะนี้ อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังระบุว่า นายกรัฐมนตรี สอบถามและกำชับให้บังคับใช้กฎหมาย ด้วยความยุติธรรม ส่วนตัว แม้รับตำแหน่งได้ไม่นาน ก็ไม่รู้สึกเครียดและหนักใจต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ต้องทำหน้าที่ ดูแลบังคับใช้กฎหมาย และดูแลองค์กรตำรวจ