คุณแม่เล่านาทีฉุกเฉิน ลูกชายถูกงูเขียวหางไหม้ฉกมือบวมจนเลือดแทบไม่ไปเลี้ยงปลายนิ้ว

คุณแม่เล่านาทีฉุกเฉิน ลูกชายถูกงูเขียวหางไหม้ฉกมือบวมจนเลือดแทบไม่ไปเลี้ยงปลายนิ้ว

คุณแม่ Link Ruengpanyawhut โพสต์เล่าประสบการณ์ระทึกผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อลูกชายของเธอถูกงูเขียวหางไหม้กัดเข้าที่มือทำให้มือบวมจนเลือดแทบจะไม่สามารถไปเลี้ยงนิ้วมือได้ แม้จะส่งถึงมือหมอแต่ยังมีขั้นตอนรอดูอาการไม่ใช่ว่าคุณหมอจะรีบเร่งฉีดเซรุ่มให้เพียงอย่างเดียวจึงอยากแชร์ประสบการณ์นี้แก่ทุกๆคน

คุณแม่เล่าว่า เรื่องเล่า เมื่อคินคิน โดนงูเขียวหางไหม้กัด (ฝากให้คุณแม่ๆได้อ่านดู เผื่อไว้นะคะ)

คิน คินถูกงูเขียวหางไหม้ที่พันตัวอยู่ที่แฮนด์จักรยานกัด ตอนที่กำลังจะไปขี่จักรยานกลับบ้าน พอโดนกัดคินๆ ก็ วิ่งมาบอกม้าคิน ว่า ม้า ม้า คินเจ็บ คินโดนงูกัด คินนิ่งและมีสติมาก แต่ที่บ้านก็ตกใจกันใหญ่ 555555 ผู้ใหญ่พากันวิ่งหาผ้าบ้าง วิ่งเอารถบ้าง ส่วนป๊าคิน ก็รีบวิ่งไปจับงู…

หลังจากขับรถออกมา ไปส่งโรงพยาบาล ก็คุยกันว่าต้องไป ศิริราช เพราะ โรงพยาบาลพญาไท3 ไม่มีเซรุ่ม (รู้เพราะเคยพาอาม่าไปมาตอนโดนตัวอะไรกัดไม่รู้ ละเข้าใจว่าอาจเป็นงู) แต่ก็คิด กลัวว่าถ้าเข้าศิริราชอาจจะช้าเพราะ คนไข้อาจจะเยอะ เลยตัดสินใจขับไป ฉุกเฉินปิยการุณ….สรุปปิยการุณก็บอกให้ไปศิริราชอยู่ดี

ไปถึง ศิริราชตึกอุบัติเหตุ หมอก็ให้คินนอน ดูอาการ พักใหญ่ๆ ใหญ่ๆเลย ก็มีหมอเดินเข้ามาถ้าเหตุการณ์ คินก็เล่าไป หมอก็ถามว่าถูกงูอะไรกัด เราก็แจ้งไปว่า ถูกงูเขียวกัด หมอก็ถามว่า งูเขียวหางไหม้ หรือ ไม่ไหม้ เพราะ ถ้าเป็นงูเขียวธรรมดาจะเป็นงูไม่มีพิษ ถ้าไม่รู้หมอ ก็ฉีดเซรุ่มให้ไม่ได้ เลยโทรถามป๊าคิน ที่ขับรถตามหลังมาพร้อมกับงู ถ่ายรูปส่งมาให้ดู เลยเห็นและ คอนเฟิร์มหมอได้ ว่าเปนงูเขียวหางไหม้

หมอเลยแจ้งว่า งูเขียวเป็นงูที่พิษมีผลต่อเลือด เดี๋ยวจะเจาะเลือดตรวจดู ว่าผลเลือดและการแข็งตัวขอเลือดเป็นยังไง แล้วก็อธิบายว่า ถ้าเป็นงูพิษจะต้องนอนโรงพยาบาลนะ เดี๋ยวหมอต้องเช็คเตียงก่อนว่ามีมั้ย แล้วหมอก็หายไปพักใหญ่ๆ ใหญ่มากๆหน่อย ระหว่างรอ มือคินก็บวมขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็มีคุณหมอเด็กมาดู แล้วก็บอกว่า รอดูอาการบวมของแผลและสีของแผล แล้วก็หายไปอีกพักใหญ่ๆ

คุณหมอคนแรกกลับมาบอกว่ามีเตียงนะ แล้วของคินต้องให้เซรุ่ม ซึ่งต้องรอหมอเด็ก กับหมอพิษวิทยาดูว่าจะให้เมื่อไหร่ยังไง
 

คุณป้าหมอแมวของคินๆ ก็แวะมาช่วยดูคินด้วย คุยกันกับคุณหมอ เห็นว่า มือกับแขนของคินๆบวมมากจนเลือดไปเลี้ยงนิ้วไม่ได้แล้ว คุณหมอ ถึงตัดสินใจฉีดเซรุ่มแก้พิษงูเขียวหางไหม้ แล้วคุณหมอก็อธิบายถึงโอกาสที่จะแพ้เซรุ่มได้ แต่จะมียาแก้อยู่ข้างๆ สามารถใช้ได้ทันที

ระหว่างที่รอก็มีผู้หญิงอีกคนถูกเข็นเข้ามาเพราะ โดนงูเขียวหางไหม้กัดเหมือนกันกับคินเลย แต่โดนที่ขา ไปโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ มาแล้วบอกให้มาที่ศิริราช

 

คุณแม่เล่านาทีฉุกเฉิน ลูกชายถูกงูเขียวหางไหม้ฉกมือบวมจนเลือดแทบไม่ไปเลี้ยงปลายนิ้ว

ตอนฉีดเซรุ่ม ต้องรอคุณหมอเด็กมาทำให้ แล้วพอให้เซรุ่มได้แปบเดียว คิน ก็ไอ แล้วก็บอกว่าคินหายใจไม่ออก คุณหมอเลยให้ญาติออกข้างนอก แล้ว ให้ยาแก้ สักพักคินก็ดีขึ้นแล้วขอกว่าคินหายใจได้แล้ว หมอจึงค่อยให้เซรุ่มต่อ จนครบ นอนสังเกตอาการ 6 ชั่วโมง มีการตรวจเลือดซ้ำ ว่าไม่เป็นไรแล้วจึงให้คินกลับบ้านได้ในวันถัดมา

 

คุณแม่เล่านาทีฉุกเฉิน ลูกชายถูกงูเขียวหางไหม้ฉกมือบวมจนเลือดแทบไม่ไปเลี้ยงปลายนิ้ว

 

คุณแม่เล่านาทีฉุกเฉิน ลูกชายถูกงูเขียวหางไหม้ฉกมือบวมจนเลือดแทบไม่ไปเลี้ยงปลายนิ้ว

จากเหตุการณ์นี้ทำให้รุ้ว่าช่วงหน้าฝนต้องระวังงูให้มากขึ้น เพราะงูจะหนีน้ำมาที่แห้ง จะเดิน จะหยิบจับอะไรให้ดูดีๆก่อน (งูที่กัดคินก็คิดว่าน่าจะหนีน้ำมา เพราะ ฝนตกหนักมากกก)

ควรสอนให้เด็กรู้จักงูและอันตรายของมัน จะได้ให้เค้าระวังตัวเองให้มากขึ้น

ถ้าถูกงูกัด สติต้องมานะคะ สติ สติ ให้ดูว่างูอะไรกัด จับได้จับเลยค่ะ เพราะไงก็ถูกกัดไปแล้ววววววว 55555 ถ้าจับไม่ได้ให้ถ่ายรูปไว้ เพราะ ถ้าระบุชนิดงูไม่ได้ หมอก็ฉีดเซรุ่มให้ไม่ได้นะคะ ระบุผิดๆมั่วๆ ก็อันตรายมวากกกนะคะ ให้คนอื่นตามจับตามถ่ายรูปนะคะ ส่วนคนเจ็บกรุณารีบไปโรงพยาบาล

ถ้าถูกงูกัด ไม่ต้องดูดพิษ ไม่ต้องวิ่งหาผ้าขันฉะเนาะนะคะ เพราะไม่มีประโยชน์อันใด

ถ้าถูกงูกัด ให้ล้างแผลด้วยน้ำสบู่ เพื่อล้างพิษที่ปากแผลออกไป แล้วพยายามอย่าเคลื่อนไหวอวัยวะส่วนที่ถูกกัด อาจทำการดามไว้เหมือนแขนหัก แต่ถ้าไม่มีอุปกรณ์ก็ไม่ต้องหาแค่อย่าขยับ

รีบไปหาหมอให้เร็วที่สุด ใน กทม. เท่าที่รู้เบื้องต้นมี โรงพยาบาลศิริราช / โรงพยาบาลรามาธิบดี /โรงพยาบาลพระมงกุฏ / โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ / สถานเสาวภา / โรงพยาบาลกรุงเทพ / โรงพยาบาลพญาไท2 ……(อาจมีที่โรงพยาบาลอื่นอีก) ใกล้ที่ไหนให้ไปที่นั่น ไม่ต้องไปหาโรงพยาบาลอื่นใกล้บ้าน เพราะไม่มีเซรุ่ม (เดาว่าอาจเป็นเพราะโรงพยาบาลเล็กๆ ไม่มีคุณหมอเฉพาะทางด้านนี้ เซรุ่มต้องฉีดโดยคุณหมอเฉพาะทางนะคะ)

ไม่ต้องไปร้องโวยวาย ให้หมอรีบฉีดเซรุ่มนะคะ เพราะคุณหมอมีเสตปการเฝ้าระวังอาการคนไข้ อยู่แล้ว ขอแค่มีหมอ มีเซรุ่ม ก็เบาใจได้ในระดับหนึ่ง แล้วหล่ะ อีกอย่างที่ต้องรู้ก็คือ เซรุ่ม เป็นสารที่สกัดได้จากพลาสม่าม้า ที่ได้รับพิษงูเข้าไป ผู้รับเซรุ่มอาจมีอาการแพ้เซรุ่มได้ แต่คุณหมอเค้าจะมียาแก้อยู่ข้างเตียงทุกครั้งอยู่แล้ว เพื่อรับมืออาการแพ้

เมื่อได้รับเซรุ่มจนกลับบ้านได้แล้ว แผล และอาการบวมมันยังไม่ได้หายไปซะทีเดียวนะคะ มันต้องอาศัยเวลาาาาาา เซรุ่มไม่ได้รักษาแผลค่ะ