- 30 พ.ย. 2563
สกัดจับอีก 8 คนไทย หนีการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้าไทย เผยจ่ายคนละ 6,500 บาท ว่าจ้างให้คนพาข้ามน้ำสาย เข้าช่องทางธรรมชาติ
30 พ.ย.63 จังหวัดเชียงราย ประสานให้ทุกหน่วยงานดำเนินการสกัดกั้นการเข้า-ออกประเทศโดยผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด พร้อมเพิ่มจำนวนกำลังเจ้าหน้าที่และความถี่ในการออกลาดตระเวนตลอดแนวชายแดนอำเภอแม่สาย ไปจนถึงอำเภอแม่ฟ้าหลวง ทั้งเวลากลางวันและเวลาคืน อีกทั้งเพิ่มการติดตั้งรั้วลวดหนามในพื้นที่เสี่ยงซึ่งเป็นทางธรรมชาติ จุดลับตาคน ไม่ให้บุคคลต่างด้าวเข้ามาได้โดยสะดวก ภายหลังมีการตรวจพบผู้ติดเชื้อรายล่าสุด ลักลอบเข้ามาผ่านพื้นที่จังหวัดเชียงราย
นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ร่วมกันแถลงข่าวที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย วันนี้ 30 พฤศจิกายน 2563 เวลา 08.00น.ในกรณีพบผู้หญิง 2 ราย อายุ 26 ปี และอายุ 23 ปี ติดเชื้อโรคโควิด 19 ซึ่งเป็นเพื่อนกับผู้ติดเชื้อโรคโควิด 19 ที่ตรวจพบที่จังหวัดเชียงใหม่ มีประวัติไปทำงานที่ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาติดกับด่านแม่สาย จังหวัดเชียงราย ขณะนี้ผู้ติดเชื้อโรคโควิด 19 ทั้ง 2 ราย เข้ารับการรักษาโรคที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ อำเภอเมืองเชียงราย ซึ่งเป็นสถานที่จังหวัดเชียงรายกำหนดไว้
นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ที่จังหวัดเชียงราย ได้ตรวจพบผู้ติดเชื้อโรคโควิด 19 ทั้ง 2 ราย ของจังหวัดเชียงราย พร้อมได้ค้นหาติดตามผู้สัมผัสและผู้ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อรวมในไทม์ไลน์จำนวน 26 ราย โดยรายที่ 10 เป็นเพศหญิง อายุ 26 ปี มีประวัติเริ่มป่วยเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2563 มีอาการไข้ ไอ และตรวจพบเชื้อโรคโควิด 19 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2563 สำหรับรายที่ 11 เป็นเพศหญิง อายุ 23 ปี ไม่มีอาการป่วย แต่เข้ารับการตรวจมีผลตรวจพบเชื้อของโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์และส่งตรวจยืนยันกับศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เชียงรายพบติดเชื้อเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2563
ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวอีกว่า จังหวัดเชียงรายมีสถานการณ์การพบผู้ป่วยติดเชื้อโรคโควิด 19 รายใหม่ จากประเทศเพื่อนบ้าน โดยให้ศูนย์ปฏิบัติการโรคติดต่อเชื้อโรคไวรัสโควิด 19 ทั้งระดับจังหวัดและระดับอำเภอ ในการดูแลในพื้นที่ตามมาตรการอย่างเข้มข้น ในการตรวจเฝ้าระวังตามพื้นที่แนวชายแดนป้องกันมิให้ผู้ลักลอบข้ามแดนทางธรรมชาติเข้ามาอย่างผิดกฏหมาย เพื่อป้องกันและลดการแพร่ระบาดอีกด้วย
ซึ่งทาง สสจ.เชียงราย ออกประกาศให้ผู้โดยสารที่มากับรถตู้ บขส. คันที่ 11 ทะเบียน 10-2973 เชียงราย ออกจากสถานีขนส่งแม่สาย วันที่ 24 พ.ย. เวลา 09.30 น. ให้ไปรายงานตัว หรือโทรแจ้ง รพ.ใกล้บ้าน หรือโทร.แจ้ง สสจ.เชียงราย เพราะมีความเสี่ยงในการสัมผัสเชื้อ
ด้านการลักลอบเข้าไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ ยังคงพบอย่างต่อเนื่อง โดยตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ได้จับกุมคนไทยผู้ลักลอบข้ามแดนจากท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ได้อีกจำนวน 8คน มีภูมิลำเนาอยู่ จ.อุดรธานี 2 คน ขอนแก่น, ภูเก็ต, เชียงราย, นนทบุรี, กทม และสมุทรปราการ จังหวัดละ 1 คน ขณะทำการหลบหนีเข้ามาตามช่องทางธรรมชาติบริเวณพื้นที่ท่ากระหล่ำ ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย
จากการสอบสวนทั้งหมด ทำงานอยู่ในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ฝั่งตรงข้าม อ.แม่สาย แต่ปรากฏว่าปัจจุบันพื้นที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก มีการติดเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความกลัว จึงพากันลักลอบข้ามแดนกลับประเทศ โดยมีกลุ่มผู้รับจ้างช่วยเหลือการข้ามน้ำสายเป็นเงินคนละ 6,500 บาท จนมาถูกเจ้าหน้าที่่จับกุมได้ดังกล่าว
ในส่วนของ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง ร่วมกับ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ อำเภอแม่สายร่วมประชุมหารือ เเละวางแผนเพิ่มมาตรการสกัดกั้นผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย พร้อมลงพื้นที่ตรวจช่องทางท่าข้ามตามธรรมชาติ และพื้นที่เสี่ยง กำชับหน่วยในพื้นที่เสริมมาตรการโดยการเพิ่มเติมกำลังในบริเวณแนวชายแดน รวมถึงขอความร่วมมือจากชาวบ้านตามแนวชายแดนให้ตื่นตัว และเป็นหูตาให้กับเจ้าหน้าที่
ขอบคุณ
หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง