- 14 ม.ค. 2564
จากกรณีบนโลกโซเชียลได้มีการแชร์ข้อความถึงป้ามหาภัย ที่ชอบตระเวนไปตามร้านสะดวกซื้อ หนีบเงินทอนไว้ที่รักแร้ ก่อนทำเนียนอ้างว่าทอนเงินไม่ครบ ซึ่งตระเวนก่อเหตุตามร้านค้าหลายแห่ง และมีผู้เสียหายจำนวนมากขณะเดียวกันยังพบว่าเจ้าตัวได้ไปก่อเหตุจุดไฟเผารถจักรยานยนต์และรถยนต์ของญาติ ร่วม 5 คัน ในย่านอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
จากกรณีบนโลกโซเชียลได้มีการแชร์ข้อความถึงป้ามหาภัย ที่ชอบตระเวนไปตามร้านสะดวกซื้อ หนีบเงินทอนไว้ที่รักแร้ ก่อนทำเนียนอ้างว่าทอนเงินไม่ครบ ซึ่งตระเวนก่อเหตุตามร้านค้าหลายแห่ง และมีผู้เสียหายจำนวนมากขณะเดียวกันยังพบว่าเจ้าตัวได้ไปก่อเหตุจุดไฟเผารถจักรยานยนต์และรถยนต์ของญาติ ร่วม 5 คัน ในย่านอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
ล่าสุดวันที่ 13 ม.ค. 64 พ.ต.ท. ธนกฤต รวยอารี รอง ผกก. สืบสวนสอบสวน สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.พระประแดง เข้าจับกุม น.ส.น้ำผึ้ง เนตรทิพย์ อายุ 51 ปี ชาว อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ตามหมายจับที่ 3/2564 ของศาลจังหวัดสมุทรปราการ ลงวันที่ 12 มกราคม 2564 ในข้อหา วางเพลิงเผาทรัพย์ และ ทำให้เสียทรัพย์ จับได้ที่บ้านพักใน ต.บางหัวเสือ อ.พระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
โดยเมื่อวันที่ 8 ม.ค.2564 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระประแดง ได้รับแจ้งจาก นายชาตรี โสปาโก อายุ 50ปี ชาวต.บางยอ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ หอบหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดเข้าแจ้งความ ว่ามีผู้ลักลอบวางเพลิง วันที่ 7 ม.ค.ช่วงเวลา 03.00น. บริเวณบ้านพักใน ต.บางยอ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ภายในซอย เพรชหึงษ์ 24 โดยมีรถยนต์เสียหาย4คัน และรถจักรยานยนต์ เสียหาย1คัน
จากการสืบค้นประวัติขยายผล พบว่า น.ส.น้ำผึ้ง ได้ก่อเหตุในหลายพื้นที่ โดยมีพฤติกรรม ซื้อสินค้าตามร้านสะดวกซื้อ โดยจ่ายค่าสินค้าเป็นธนบัตร 1,000บาท เมื่อได้เงินทอนมาจะหาจังหวะขณะที่พนักงานเผลอเอาธนบัตร 500 บาทเหน็บไปไว้ที่รักแร้และโวยวายกับพนักงานว่าทอนเงินไม่ครบ จนพนักงานเก็บเงินหลายแห่งตกเป็นเหยื่อ โดยก่อเหตุมาตั้งแต่ มกราคม ปี2563 โดยได้ฉายาว่า "ป้ารักแร้เหนียว" โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะส่งตัวดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
จากการสอบถาม นายชาตรี โสปาโก อายุ 50ปี ชาว ต.บางยอ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นผู้เสียหายเจ้าของรถที่ถูกเผา กล่าวว่า ตนเองต้องขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ติดตามตัวคนร้ายรายนี้ได้ ซึ่งก็เป็นญาติกันแต่ไม่ค่อยพบปะหรือพูดคุยกัน และชอบคิดไปเองว่าญาติชอบไปทำทรัพย์สินของเขาเสียหาย โดยช่วงที่ยังจับไม่ได้ตนเองและครอบครัวนอนหลับไม่เต็มที่ เนื่องจากต้องคอยมานั่งเฝ้าเกรงว่าจะกลับมาเผาบ้านตนอีก
โดยผู้ก่อเหตุบ้านของตนเองอยู่ใกล้กันแต่ตนเองยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ไม่ให้อภัยแน่นอน เนื่องจากวันเกิดเหตุนั้นหากตนเองและครอบครัวดับไฟไว้ไม่ทัน ทั้งทรัพย์สิน หรือแม้กระทั่งชีวิตก็อาจจะต้องเสียไป เพราะฉะนั้นตนเองขอยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด