- 14 ม.ค. 2564
สืบเนื่องจากกรณีการส่งต่อคลิปเสียง ที่ระบุถึงการรักษาโควิด-19 ด้วยวิธีการของแพทย์แผนจีน โดยให้รับประทานยาเขียวเพื่อทำให้เกิดความร้อนในร่างกาย เมื่อร่างกายเกิดความร้อนก็จะมีการขับเหงื่อและปัสสาวะออกมาซึ่งเชื้อไวรัส จะออกมาด้วยกับเหงื่อและน้ำปัสสาวะ อุจจาระนั้น กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
สืบเนื่องจากกรณีการส่งต่อคลิปเสียง ที่ระบุถึงการรักษาโควิด-19 ด้วยวิธีการของแพทย์แผนจีน โดยให้รับประทานยาเขียวเพื่อทำให้เกิดความร้อนในร่างกาย เมื่อร่างกายเกิดความร้อนก็จะมีการขับเหงื่อและปัสสาวะออกมาซึ่งเชื้อไวรัส จะออกมาด้วยกับเหงื่อและน้ำปัสสาวะ อุจจาระนั้น กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข พบว่าข้อมูลดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลเท็จ
โดยกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้ชี้แจงว่า การใช้ยาเขียวในการรักษาโรคไม่ได้มีอยู่ในองค์ความรู้ทางด้านแพทย์แผนจีน แต่เป็นองค์ความรู้ทางด้านการแพทย์แผนไทยที่ใช้กระทุ้งไข้ หัด อีสุกอีใส อีกทั้งยาเขียวยี่ห้อดังกล่าวไม่มีการบอกสูตรยาที่แน่นอน และยังไม่มีข้อมูลด้านประสิทธิผลและความปลอดภัยในผู้ป่วยโรคโควิด-19 ดังนั้น จึงยังไม่สามารถกล่าวได้ว่าสามารถใช้รักษาโรค โควิด-19 ได้ ซึ่งการกล่าวอ้างดังกล่าวเป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล ส่วนประสิทธิผลของยาจำเป็นต้องมีการศึกษาประสิทธิผลต่อไป
สำหรับยาเขียวเป็นตำรับยาไทย ตามองค์ความรู้ของแพทย์แผนไทย หรือหมอพื้นบ้าน ที่มีการใช้กันมานานหลายทศวรรษ และเป็นตำรับที่ยังมีการผลิตขายทั่วไปตราบจนปัจจุบัน ประชาชนทั่วไปในสมัยก่อนจะรู้จักวิธีการใช้ยาเขียวเป็นอย่างดี กล่าวคือ มักใช้ยาเขียวในเด็กที่เป็นไข้ออกผื่น เช่น หัด อีสุกอีใส เพื่อกระทุ้งให้พิษไข้ออกมา เป็นผื่นเพิ่มขึ้น และหายได้เร็ว ซึ่งยาเขียวจัดเป็นยาเย็น ทำให้ตำรับยาเขียวส่วนใหญ่มีสรรพคุณ ดับความร้อนของเลือดที่เป็นพิษ ซึ่งพิษในที่นี้หมายถึงของเสียหรือความร้อนที่อยู่ภายในร่างกายเท่านั้น