หมอทวีศิลป์ ตอบแล้วถึงมาตรการผ่อนคลายของคนไทย หลังโควิดระลอกใหม่ระบาดหนัก ติดเชื้อหลักร้อยทุกวัน

จากที่คนไทยต้องต่อสู้กับเชื้อโควิด 19 ระลอกใหม่ที่ได้ลุกลามแพร่กระจายอย่างหนักไปกว่า 28 จังหวัดทั่วประเทศไทย และต้องมีการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดในอีกหลายๆ จังหวัด ซึ่งน่าตกใจไม่น้อยที่ก่อนหน้านี้ คุณหมอได้ชี้แจงเกี่ยวกับยอดการติดเชื้อระลอกใหม่เพียวๆ ว่าพุ่งสูงกว่า 7,000 รายในระยะเวลาไม่ถึงเดือน

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 หรือ ศบค. ได้กล่าวช่วหนึ่งในตอนแถลงยอดผู้ติดเชื้อประจำวันว่า สำหรับเรื่องของมาตรการผ่อนคลายของคนไทยหลังจากเกิดการระบาดระลอกใหม่นี้นั้น ในวันที่ 18 - 31 ม.ค. นี้ ประเมินการระบาดว่า จะใช้ยาแรงขึ้น หรือ จะถอนยา

"วันที่เราประกาศเรื่องของมาตรการฉบับล่าสุดออกมาคือวันที่ 4 มกราคม แต่จริงๆ แล้วการติดเชื้อเกิดขึ้นตั้งแต่ที่รายงานมาตั้งแต่วันที่ 15 ถึง 18 ธันวาคม 2563 แต่เรายังไม่มีมาตรการอะไรออกมาเลย ซึ่งในที่ประชุมก็บอกว่าถ้างั้นเรานับเอาวันแรกที่เป็นมาตรการที่เราสั่งกันทั่วประเทศแล้วกัน โดยเฉพาะเน้นที่ 28 จังหวัด ก็หมายถึงว่าถ้าพูดง่ายๆ คือไข้น่ะมีมาแล้ว แต่เรานับวันที่จัดชุดยาให้คือวันที่ 4 มกราคม 2564

ท่านนายกรัฐมนตรีลงนามว่า 6 : 00 น. ของวันที่ 4 มกราคม 2564 ให้ประกาศให้ 28 ได้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ถือว่านั่นเป็นการให้ยา เป็น day 1 ซึ่งถ้านับเป็น day 1 เรามีมาตรการอยู่ 14 วันคือเป็น 14 วันที่ปลอดภัยจากโรค จะครบเมื่อไหร่ ก็นับไป 4 มกราคม ไล่ไปคือ 17 มกราคม คือเป็นวันที่ใส่ยาเข้าไป

ทีนี้คำถามว่าใส่ยาเข้าไปแล้วเนี่ยยาแรงหรือยัง กว่าคำสั่งจะลงไปถึงพื้นที่ กว่าพื้นที่จะจัดทำนู่นทำนี่ จะเห็นหน้ากระบวนการของการออกข้อกำหนดและเกิดการปฏิบัติเนี่ยยังมีข้อบางอย่าง กว่าหมอชนะจะออกมา กว่าพื้นที่จะเอาปิดร้านอาหารกี่โมงดีว่ากันไปหลายวัน เพราะฉะนั้นยากว่าจะออกฤทธิ์ ก็ต้องดูกันต่อ

ก่อนหน้านี้ท่านประธานของศบค.ชุดเล็กบอกว่าขอให้ทุกจังหวัดสั่งเข้ม คือออกข้อกำหนดทั้งหลายให้เต็มที่ถึง 17 มกราคม เท่ากับว่าเราใส่ยากันไปกันทั้งประเทศเนี่ยเต็มที่ 2 สัปดาห์ แล้วดูกันอีก 2 สัปดาห์ถัดไปที่เราเคยประกาศไว้ จำได้ไหมครับวันที่ 4 มกราคมบอกว่าจะสิ้นสุดของการใช้มาตรการชุดนี้วันที่ 31 มกราคม เท่ากับว่าบวกเข้าไปอีก 14 วันพอใส่ยาเข้าไปแล้ว 24 วันข้างหลังเนี่ยก็คือตั้งแต่วันที่ 18 มกราคมถึงวันที่ 31 มกราคมเป็นช่วงเวลาของการดูผลของการออกฤทธิ์ 

คำว่าผลของการออกฤทธิ์ถ้าตัวเลขลดลงเรื่อยๆ นั่นแหละเท่ากับว่าเราใช้ยาได้ผล ซึ่งมาตรการขั้นที่ 1 ที่เราบอกว่าเอาขั้นเอาราชการฉบับที่ 5 - 6 - 7 ที่เบาๆ ตอนนั้นนำมาใช้ตอนนี้ ถ้าใช้ได้ผลหลังวันที่ 31 มกราคมก็ไม่ต้องไปออกขั้นที่ 2 ซึ่งก็คือที่เราบอกว่าเราจะไปเอาฉบับ 1 - 2 - 3 ซึ่งเป็นฉบับคือเคอร์ฟิล ฉบับล็อคเมืองฉบับแรกที่ว่าน่ะมาใส่ตอนนี้ ขึ้นอยู่กับตัวเลขอันที่ 1 ก็คือ 17 นี้มาตรการเต็มที่แล้วหรือยัง

ถ้ายังตอนนี้ทุกจังหวัดช่วยกัน ถ้าช่วยกันแล้วไม่ใช่แค่ภาครัฐภาคเอกชนและประชาชนก็ต้องเต็มที่ด้วย ใส่แมสก์ทุกคน 100% ไหม อะไรทั้งหลายที่เราบอกกันทั้งหลาย ทั้งเดือนนี้ท่านต้องทำเต็มที่หน่อย แล้วก็จะดูผลกันหลังวันที่ 17 จะดูผลแต่เราต้องทำยาวกันทั้งเดือน ซึ่งเดือนนี้ทั้งเดือนขอแรงกายแรงใจให้ท่านช่วยกันเพื่อที่จะได้ช่วยกันทำให้ตัวเลขนี้ลดลงแล้วเราก็ไม่ต้องเห็นภาพของการใช้ยาแรงไปหลังจากวันที่ 31 นะครับ"

ชมแถลงฉบับเต็ม

                                                               >>Lazada มอบดีลช๊อปสุดพิเศษ สนใจคลิก<<