- 18 ม.ค. 2564
วัดประกาศตัดขาด ลุงพล ไม่ขอยุ่งเงินบริจาค แฉซ้ำได้ร่วมล้าน แต่ไม่ยอมถวายวัด
จากกรณีพระอาจารย์สมบัติ อภิสัมโธ ประธานสำนักสงฆ์ภูหลวง เปิดเผยว่า กรณีความคืบหน้าการเทปูนศาลาสำนักสงฆ์ภูหลวง เนื้อที่ 870 กว่าตารางเมตร พูดตรง ๆ ว่ารู้สึกเบื่อ เพราะตั้งแต่เริ่มก่อสร้างก็มีเรื่องวุ่นวายอย่างต่อเนื่อง บางครั้งทำให้อาตมาถูกกลุ่มยูทูเบอร์ตามติดชีวิตลุงพล รวมไปถึงบรรดาแฟนคลับมาต่อว่าเสีย ๆ หาย ๆ
โดยเริ่มจากลุงพล ที่มาขออนุญาตเปิดรับบริจาคเงินนำมาเทพื้นศาลาสำนักสงฆ์ ที่แต่เดิมเป็นพื้นดิน ซึ่งอาตมามีความตั้งใจที่จะทำอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้ดำเนินการ จึงไม่ขัดความต้องการของลุงพล กระทั่งมีการไปเปิดบัญชีรับบริจาคในชื่อ ลุงพล ผู้ช่วยอีกคน และยูทูเบอร์ชื่อ อ๋อ ซึ่งการเปิดรับบริจาคครั้งนี้ได้เงินมา 8.8 แสนบาท โดยยอดเงินนี้เป็นไปตามที่ลุงพล มาแจ้งด้วยวาจา ยืนยันว่าไม่เคยเห็นตัวเลขในบัญชี รวมไปถึงไม่เคยรับรู้ถึงรายละเอียดในการใช้จ่ายเงิน ทราบว่ามีเพียงลุงพลกับยูทูเบอร์ อ๋อ ที่รู้ถึงรายละเอียดในการใช้จ่าย
จากนั้นเริ่มแรกของการก่อสร้าง ที่ต้องปรับพื้นศาลาสำนักสงฆ์ ลุงพล ได้ให้ประสานผู้ใหญ่บ้านประกาศเสียงตามสาย ว่าจ้างชาวบ้านกกกอก ให้มาช่วยกัน โดยเสนอค่าแรงวันละ 300 บาท ซึ่งมีชาวบ้านมาร่วมกันจำนวนมาก ทำงานทั้งหมด 2 วัน แต่มีชาวบ้านมากกว่า 90% ไม่ขอรับเงินค่าแรง โดยประสงค์ให้นำไปถวายวัด เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แต่ต่อมาก็ทราบว่า ไม่มีการนำเงินส่วนนี้ไปมอบให้ อ้างว่านำไปเป็นค่ามัดจำปูนซีเมนต์แล้ว เงินส่วนนี้ประมาณ 30,000 บาท
การเทปูนศาลาสำนักสงฆ์ครั้งนี้ มีการคำนวนว่า จะใช้ปูนจำนวน 136 คิว คิวละ 1,850 บาท โดยมีค่าแรงรถปูนเที่ยวละ 500 บาท เริ่มดำเนินการตั้งแต่ 13 ม.ค.64 ตอนนี้เทปูนไปได้แล้วจำนวน 67 คิว ถือว่าช้าไม่เป็นไปตามสัญญาที่ระบุไว้ว่า ต้องเทให้ได้วันละ 20 คิว ซึ่งการเทปูนศาลาสำนักสงฆ์ครั้งนี้ มีอุปสรรคและปัญหามากมาย ทำให้เกิดความวุ่นวาย
เริ่มจากเงินบริจาค ที่ลุงพล นำไปดำเนินการเองทั้งหมด ซึ่งผิดแปลกไปจากปกติที่เมื่อมีการตั้งผ้าป่า กฐิน หรือเปิดรับบริจาค ก็จะนำเงินต่าง ๆ ถวายวัด โดยมอบให้กรรมการวัดดำเนินการ ต่อมาเรื่องการเลือกบริษัทปูน ที่อาตมาเสนอให้ใช้บริษัทหนึ่งเนื่องจากมีรถขนส่งจำนวนมาก แต่ลุงพลกลับไปเลือกอีกบริษัท ที่ทำให้การทำงานล่าช้า มีปัญหาเกิดขึ้น กรณีลุงพล จะขอลดสเป็กการเทปูน อ้างว่ากลัวเงินที่รับบริจาคมาไม่พอกับค่าใช้จ่าย ทำให้มีการทักท้วง จนสุดท้ายลุงพล ต้องยอมทำตามสเป็กเดิม
นอกจากปัญหาเหล่านี้แล้ว อีกปัญหาที่สำคัญ คือ ตั้งแต่เริ่มเทปูนศาลาสำนักสงฆ์มา ก็มีกลุ่มยูทูเบอร์ไปไลฟ์สดตลอดเวลา ทำให้มีบรรดาแฟนคลับลุงพล เข้ามาคอมเมนต์ต่อว่าอาตมาจำนวนมาก โดยเฉพาะประเด็นว่า พระอยากได้เงิน ซึ่งไม่เป็นความจริง ทำให้ท่านและสำนักสงฆ์เสียหาย อีกทั้งกลุ่มยูทูเบอร์ยังพากันปกปิดพฤติกรรมที่ไม่ดีของตัวเอง และเปิดเผยเฉพาะด้านที่ไม่ดีของคนอื่น
อย่างกรณีที่ไลฟ์สดขณะที่พระลงไปควบคุมช่างก่อสร้าง จนทำให้อาตมาเกิดความเสื่อมเสีย ทั้งนี้ยืนยันว่า จะไม่เข้าไปยุ่งกับเงินบริจาคของลุงพล เเม้จะมีการพูดไว้ว่าเงินที่เหลือจากการก่อสร้างจะนำมาถวาย ก็จะขอไม่รับไว้ เพราะไม่อยากมีปัญหาอีกต่อไปแล้ว