- 23 ม.ค. 2564
รองผู้ว่าฯสมุทรสาครเรียกประชุม ตั้ง 2 มาตรการสำคัญ ก่อนเปิดตลาดกลางกุ้งสิ้นเดือนนี้
มีรายงานเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2564 เมื่อเวลา 13.30 น. ที่หอประชุมตลาดทะเลไทย ต.ท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ได้มีการจัดประชุมหารือร่วมกันถึงการวางแนวทางในการเปิดตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร โดยในการประชุมครั้งนี้มีผู้ประกอบการแพกุ้ง แพปลา ในตลาดกลางกุ้ง และตลาดทะเลไทย มาประชุมร่วมกับทางจังหวัดสมุทรสาคร
ประกอบด้วยนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร, นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร,ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร ,หัวหน้าสำนักงานจังหวัด, นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร,รอง ผอ.กอ.รมน.และรองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด
ในการประชุมครั้งนี้นายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า เป็นเพียงการชี้แจงเพื่อต้องการให้ผู้ประกอบการทั้งในตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร และตลาดทะเลไทยนั้น ได้มีการหารือร่วมกันที่จะกำหนดกติกา หรือมาตรการสำคัญ 2 ด้านด้วยกัน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นใจให้แก่บุคคลภายนอกจังหวัดสมุทรสาคร
สำหรับ 2 มาตรการสำคัญ มีดังนี้
1.เรื่องระบบการปฏิบัติงานในตลาดกลางกุ้ง หรือแนวทางในการค้าขายเมื่อเปิดตลาดกลางกุ้ง ที่ต้องเป็นไปภายใต้รูปแบบ New Normal ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งทางจังหวัดต้องการให้ผู้ประกอบการในตลาดเป็นคนวางมาตรการเอง เนื่องจากตลาดแต่ละแห่งนั้นก็จะมีรูปแบบการค้าขายที่ไม่เหมือนกัน หากผู้ประกอบการกำหนดแนวทางมาให้จังหวัดพิจารณา ก็จะได้ตรงกับสภาพความเป็นจริงของพื้นที่ๆ ทำการค้าขายกันอยู่ในปัจจุบัน
โดยสิ่งที่จะต้องดำเนินการอย่างชัดเจน และไม่น่าเป็นห่วงเท่าไหร่ก็เช่นเรื่องของ สุขอนามัยบุคคล ใส่แมส ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของทุกคนที่เข้ามาในตลาดกลางกุ้ง ใช้เจลและแอลกอฮอลล์ล้างมือ มีการทำความสะอาดพื้นที่หลังการขาย เป็นต้น แต่ที่ต้องคุมเข้มคือ การคุมคนที่เข้ามาซื้อ หรือที่นำสินค้าจากบ่อมาขายจะมีวิธีการใดที่ยืนยันได้ว่าปลอดจากเชื้อโควิด หรือเคยได้รับการตรวจโควิดมาแล้ว การคัดวัตถุดิบโดยไม่ถอดแมส การกั้นช่อง จัดลำดับคิวผู้เข้าซื้อ วิธีการลดการสัมผัส การปฏิบัติงานโดยมีระยะห่าง และการดูแลรักษาความสะอาดเรียบร้อยรวมถึงการป้องกันเชื้อโรคตั้งแต่คนจนถึงรถขนถ่ายสัตว์น้ำ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้จะมีวิธีการทำอย่างไรให้เป็นไปภายใต้มาตรการของสาธารณสุข ซึ่งไม่ใช่เพียงแต่เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ผู้ประกอบการ (เจ้าของแพ) หรือแรงงานในตลาดกลางกุ้ง รวมถึงผู้ที่เข้ามาซื้อขายด้วย แต่ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่บุคคลภายนอกที่ซื้อสินค้าจากตลาดกลางกุ้งไปบริโภคต่อ และยังจะเป็นการเรียกชื่อเสียงของจังหวัดสมุทรสาคร ในการเป็นเมืองแห่งอาหารทะเล Hub of Seafood ให้กลับคืนมาอีกด้วย
2 คือ เรื่องของการคุมคนที่พักอาศัย ในหอพักของตลาดกลางกุ้ง ซึ่งพบว่ามีประชากรอาศัยกันอยู่อย่างหนาแน่นมากเกินไป ดังนั้นจะทำอย่างไรเพื่อกระจายคนไม่ให้อาศัยอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการพักอาศัยในหนึ่งห้องต้องไม่อยู่กันอย่างแออัด ซึ่งทางเจ้าของหอพัก รวมถึงเจ้าของสถานประกอบการ จะต้องมีส่วนร่วมในการคิดหาทางที่จะนำแรงงานต่างด้าวในแต่ละห้องที่มีจำนวนมากเกินไป กระจายตัวออกมา
ทั้งนี้ ได้ขอให้เจ้าของสถานประกอบการแต่ละแห่ง ที่มีแรงงานต่างด้าวพักอาศัยอยู่ในตลาดกลางกุ้ง ไปสำรวจว่าตนเองมีลูกจ้างอยู่กี่คน และพักอยู่ห้องละกี่คน หากห้องไหนมีคนอยู่อย่างแออัดเกินไป จะมีวิธีการขยับขยายอย่างไร พร้อมกันนี้ก็จะได้มอบหมายให้นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร เข้าไปตรวจสอบอีกทางหนึ่งด้วย รวมถึงเรื่องของการรักษาความสะอาดบริเวณโดยรอบที่พักอาศัย และภายในห้องก็ต้องมีมาตรการควบคุมเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ยังได้ทิ้งท้ายด้วยว่า"การประกาศเปิดตลาดกลางกุ้ง จังหวัดสมุทรสาคร ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ที่ยากกว่าคือถ้าเปิดแล้วจะทำอย่างไรให้คนอื่นเชื่อมั่นและมั่นใจว่า ตลาดกลางกุ้งมีความปลอดภัยจริง แล้วกลับมาซื้อขายสินค้าที่ตลาดกลางกุ้งกันอีกครั้ง หรือซื้อสินค้าจากตลาดกลางกุ้งไปบริโภคต่อ"
มาตรการทั้ง 2 อย่างที่กล่าวข้างต้นคือ การคุมระบบตลาดให้ได้มาตรฐานภายใต้มาตรการ News Normal และ คุมคนที่พักอาศัยให้อยู่กันอย่างถูกสุขลักษณะ จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก และมีผลต่อตลาดกลางกุ้งที่จะได้กลับมาเปิดทำการค้าขายอย่างเต็มรูปแบบกันอีกครั้ง ดังนั้นสิ่งเหล่านี้จึงเป็นการบ้านที่สำคัญว่า เราจะทำกันในรูปแบบไหน และเมื่อได้รูปแบบที่ชัดเจนแล้วก็ให้ส่งตัวแทนไปนำเสนอต่อรองผู้ว่าราชการจังหวัดและคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณา ซึ่งถ้าช้ากว่าวันที่ 26 หรือ 27 มกราคม ก็อาจจะต้องเลื่อนการเปิดไปอีกเล็กน้อย