- 26 ม.ค. 2564
วันที่ 26 ม.ค. เฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ของ นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้ออกมาโพสต์ข้อความเปิดเผยถึงเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในประเทศอังกฤษ
วันที่ 26 ม.ค. เฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ของ นายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้ออกมาโพสต์ข้อความเปิดเผยถึงเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในประเทศอังกฤษ ที่มีความอันตรายเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้แนะนำให้คนไทยฉีดวัคซีนโควิดเพียงเข็มเดียว แล้วรอวัคซีนโควิดปีหน้า ซึ่งคงจะเป็นวัคซีนที่ผลิตขึ้นสำหรับสายพันธุ์ใหม่ของปีนี้ ทั้งนี้ “หมอมนูญ” ได้ระบุข้อความว่า...
“ผมเคยเขียนไว้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว ประเทศไทยจะเจอโรคโควิด-19 ระบาดรอบที่สอง เชื้อไวรัสจะกลายพันธุ์ ทำให้ติดต่อกันง่ายขึ้น และก่อโรครุนแรงขึ้น ก่อนหน้านี้ นักไวรัสวิทยาเชื่อว่าเชื้อกลายพันธุ์ไม่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงของโรค ล่าสุด มีรายงานเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ในประเทศอังกฤษ สายพันธุ์ “B.1.1.7” พบแล้วในหลายสิบประเทศ ไม่เพียงแต่ติดต่อกันได้ง่ายขึ้นกว่าเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดิมก่อนหน้านี้ถึง 70% เท่านั้น ยังเพิ่มความรุนแรง และเสี่ยงต่อการเสียชีวิตมากขึ้นด้วย
ผลการศึกษา ชี้สายพันธุ์ใหม่ทำให้ผู้ติดเชื้อป่วยหนัก-เสียชีวิตมากขึ้น หากผู้ป่วยชายในวัย 60 ปีขึ้นไป ได้รับเชื้อสายพันธุ์เดิม อัตราการเสียชีวิตจะอยู่ที่ราว 10 คน จาก 1,000 คนที่ติดเชื้อ แต่หากเป็นเชื้อกลายพันธุ์อัตราการเสียชีวิตจะอยู่ที่ราว 13-14 คน เพิ่มขึ้น 30-40% เชื้อสายพันธ์ุใหม่เป็นเชื้อที่ฟิต แข็งแรง แบ่งตัวเพิ่มจำนวนในทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่างมากกว่าเดิม ถ้าวัดปริมาณเชื้อจะพบจำนวนเชื้อ (viral load) มากกว่าสายพันธุ์เดิม คนติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ จึงแพร่กระจายเชื้อให้คนอื่นง่ายขึ้น เชื้อสายพันธุ์ใหม่เกาะตัวรับของเซลล์ในทางเดินหายใจและผ่านเข้าสู่เซลล์ได้ดีกว่าสายพันธุ์เดิม ฆ่าเซลล์ของระบบทางเดินหายใจได้มากขึ้น ทำให้โรครุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต เชื้อสายพันธุ์ B.1.1.7 ยังไม่มีรายงานในประเทศไทย เชื่อว่าอีกไม่นานเชื้อกลายพันธุ์นี้ก็จะแทนที่เชื้อสายพันธุ์เดิมทั่วโลก
วัคซีนที่ผลิตขึ้นใช้เวลาศึกษาอย่างน้อย 9 เดือนก่อนจะออกมาใช้ เป็นวัคซีนที่ใช้ต้นแบบของเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดิมของมกราคมปีที่แล้ว เราไม่ทราบว่าวัคซีนนี้สามารถป้องกันเชื้อกลายพันธุ์ปัจจุบันของประเทศอังกฤษ และสายพันธุ์ใหม่ของประเทศอเมริกาใต้ 501.V2 ได้ดีหรือไม่ สำหรับประเทศไทยเนื่องจากปีนี้เรามีวัคซีนไม่เพียงพอ ผมขอเสนอ ถ้าเป็นไปได้คนไทยส่วนใหญ่รวมทั้งแรงงานต่างชาติ (ยกเว้นเด็กและหญิงตั้งครรภ์) ฉีดวัคซีนโควิดเพียงเข็มเดียวก็พอ แล้วรอวัคซีนโควิดปีหน้า ซึ่งคงจะเป็นวัคซีนที่ผลิตขึ้นสำหรับสายพันธุ์ใหม่ของปีนี้ เหมือนกับการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่ต้องฉีดทุกปี ปีละ 1 เข็ม ต่อให้มีวัคซีน ผมเชื่อว่าโรคไวรัสโควิด-19 จะอยู่กับเราต่อไปเป็นโรคประจำถิ่นเหมือนโรคไข้หวัดใหญ่”