- 27 ม.ค. 2564
วินาทีประทับใจของพ่อเมืองสมุทรสาคร เผยผ่าน ศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ ศิริราชพยาบาล
ความคืบหน้าอาการของนายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งทางด้าน รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว เผยถึงเรื่องราววินาทีประทับใจของท่านพ่อเมืองสมุทรสาคร
อายุเป็นเพียงตัวเลข แต่ถ้ามันมากนักกำลังกายและพลังสมองคงจะแปรผกผันและลดถอยไปตามกาลเวลา แม้ใจจะอ้างว่ายังสู้ก็ตาม ลืมเล่าไปเมื่อวานว่าคืนวานซืนหนึ่งวันก่อนที่จะมาทำหัตถการพิเศษทางระบบการหายใจให้พ่อเมืองสาคร ลูกสาวคนเล็กถามด้วยความห่วงใย (คนทำหรือหรือคนถูกทำหัตถการ) ว่า ปีนี้อายุก็จะครบห้ารอบเต็มแล้ว พ่อทำหัตถการนี้ด้วยตัวเองไปครั้งสุดท้ายเมื่อไร ตอบไปว่านานมากจนจำไม่ได้แล้ว แต่ยังกำกับการทำหัตถการนี้อย่างใกล้ชิดเพื่อฝึกฝนหมอปอดมาตลอด 30 ปีไม่เคยห่างเลยนะ อารามรีบร้อนจึงลืมถามไปว่าเขาคิดอย่างไรถึงถามออกมาเช่นนั้น
เมื่อวานหลังได้บรีฟและทบทวนแผนงานก่อนเริ่มงาน ให้ทีมแพทย์ ทีมพยาบาล และทีมเจ้าหน้าที่ซึ่งจะเข้าช่วยทำหัตถการ หลังเล่าเรื่องที่ลูกสาวเอ่ยปากทักให้ฟัง ทุกคนสีหน้าราบเรียบยอมรับโดยดุษณีไม่มีใครแสดงความเห็น การทำหัตถการเป็นไปโดยเรียบร้อย (คนทำคิดเอาเองคนเดียวนะ) คนช่วยใกล้ชิดดูตื่นเต้นและลนกันไปบ้างกว่าธรรมชาติที่เคยเป็น หลังทำได้แจ้งผลผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าเรียบร้อยดี มีเสียงนินทาจากลูกศิษย์คนสนิทมาเข้าหูคนสังขารร่วงโรย ทำนองว่าก่อนทำหัตถการทุกคนที่เกี่ยวข้องเห็นพ้องกับที่ลูกสาวคนเล็กทักมา แต่หลังทำไม่กล้าถาม ขอฝากรอยช้ำ (ใจ) นี้ไว้ก่อน รอประเมินผลการปฏิบัติงานรอบ 6 เดือนครั้งหน้าเถอะ ลูกน้องทั้งหลายรวมลูกสาวคนเล็กด้วย (เขาครบรอบประเมินก่อนตั้งงบค่าใช้จ่ายรายเดือนส่วนตัวให้ใหม่) รับรองมีลุ้นเหมือนบอลพรีเมียร์ลีก
วันนี้ได้เข้าเยี่ยมพ่อเมืองสาครใกล้ชิดเป็นครั้งที่ 4 ต่างกันที่ครั้งนี้แต่งตัวป้องกันลดระดับลงเพราะท่านตรวจไม่พบเชื้อโควิดในปอดแล้ว และเป็นครั้งแรกที่เปิดโอกาสให้บุตรีคนโตท่านได้มองเห็นภาพการเยี่ยมจากห้องกระจกด้านนอกในระหว่างที่เข้าเยี่ยม ท่านนอนนิ่งโดยใช้เครื่องช่วยหายใจพร้อมยาทำให้สงบบนเตียงผู้ป่วย รับฟังการสนทนาฝ่ายเดียวเช่นครั้งก่อน เริ่มต้นจากการทักทายกันหลังห่างหายไปหลายวัน แล้วจึงเล่าเรื่องที่ได้ติดตามให้ข้อมูลกับภรรยาและบุตรีท่านมาตลอดพร้อมข้อห่วงใยที่สมาชิกครอบครัวทั้ง 5 สาวฝากมา พร้อมกับแจ้งความคืบหน้าผลการตรวจรักษาของตัวท่านเองและแผนการดูแลรักษาต่อไป
ปิดท้ายด้วยความคืบหน้าเรื่องโรงพยาบาลสนาม “ศูนย์ห่วงใยสาคร” ที่ท่านเป็นห่วงเป็นนักเป็นหนาก่อนป่วยหนักครั้งนี้ ตอนนี้ขึ้นรูปได้กว่า 2,000 เตียงแล้ว ใช้งานไปแล้ว 1,500 เตียง และกำลังจัดสร้างให้ได้จนครบ 3,600 เตียง เพื่อให้เพียงพอกับผู้ป่วยหลักร้อยต่อวันจากการตรวจเชิงรุกในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ ช่วงนี้เองที่เห็นคลื่นสมองที่มีเครื่องติดตามอยู่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม พร้อมน้ำตาเอ่อล้นที่หัวตาทั้งสองข้าง เสียดายว่าลืมแจ้งท่านถึงความห่วงใยที่หัวเรือใหญ่ของคณะรัฐมนตรีได้ฝากผ่านมาด้วย
saveประเทศไทยจากภัยโควิด-19ระลอกสอง
ด้าน ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ออกกล่าวถึงอาการของ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครว่า ล่าสุดวันนี้หลังมีการพูดคุยหารือกับทีมแพทย์ผู้ให้การรักษา โดยได้มีการนำน้ำจากหลอดลมส่วนปลาย ไปตรวจหาเชื้อโควิด ไม่พบเชื้อ ทำให้การตรวจหาเชื้อโควิดในตัวผู้ว่า ฯไม่เจอถึง 3 ครั้ง ทางทฤษฎีไม่มีเชื้อโควิดในร่างกาย และจากการตรวจดูเซลล์จากน้ำในปอด ที่ดูดไป เพื่อดูการอักเสบ ประกอบกับตอนนี้ไม่มีไข้เป็นวัน 2 แล้ว แสดงว่าการติดเชื้อในปอดดีขึ้น เมื่อวานนี้ได้เริ่มให้ยาลดการอักเสบในปอด คนละตัวกับยาปฏิชีวนะ และ ยาลดการสร้างพังผืดในปอด ตอนนี้รอดูการฟื้นตัวปอด สักระยะหนึ่งก่อน. ตอนนี้ถือว่าอาการคงที่ มีแนวโน้มดีขึ้น ส่วนการให้อาหารเพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวก็มีสัญญาณที่ดีขึ้น โดยร่างกายของผู้ว่า สามารถรับอาหารทางสายยาง เข้าไปผ่านทางลำไส้ แทนหลอดเลือดทำให้กลไกการทำงานของระบบทางเดินอาหารกลับมาทำงานได้ดี
พร้อม อยากวิงวอนขอสื่อมวลชน อย่าไปรบกวนครอบครัวผู้ว่าฯ หลังเมื่อวานนี้มีสื่อบางส่วนโทรศัพท์สายตรงหาภรรยาผู้ว่าฯ และไปถามว่าผู้ว่าเสียชีวิตหรือไม่ สร้างความตกใจแก่ครอบครัว ผมยินดีให้ข้อมูลแต่อย่าได้รบกวนครอบครัวผู้ว่าฯ อย่างไรก็ตาม การเอ็กซ์เรย์คอมพิวเตอร์วานก่อน (24 ม.ค.)ทำให้เห็นสภาพปอดมีอักเสบเป็นหย่อมๆ ฉะนั้นต้องรอเวลาให้ยาทำงาน หากดีขึ้นสามารถดูได้จากระดับออกซิเจนในเลือด
ที่มา
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=3325736087532051&id=100002870789106