- 06 ก.พ. 2564
ตำรวจขอนแก่นเตรียมออกหมายจับ ครูหัวหมอสวมสิทธิ์โครงการคนละครึ่งและเราเที่ยวด้วยกัน พบประวัติเป็นครูชำนาญการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น
จากกรณีที่ชาวบ้าน บ.โนนค้อ หมู่ 2 ต.โคกงาม อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น 38 คน เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านฝาง ว่าถูกครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น และ เครือข่ายข้าราชการครู ในพื้นที่ อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น บอกชาวบ้านว่าจะมีเงินจำนวน 200 บาท ซึ่งเป็นเงินของทางรัฐบาลมาแจก ให้นำบัตรประชาชนมารับเงินไป ทำให้มีชาวบ้านเป็นร้อยคนเดินทางมารับ
โดยครูคนหนึ่งได้ถ่ายภาพบัตรประชาชนทั้งด้านหน้าด้านหลังก่อนจะจ่ายเงินให้ชาวบ้านไปคนละ 200 บาท ซึ่งมีชาวบ้านหลายคนสงสัยว่าเป็นเงินอะไร โดยครูฝนบอกกับชาวบ้านว่าเขาให้เงินก็รับๆไปเถอะ ต่อมาหลังจากมีโครงการเราชนะเกิดขึ้น ชาวบ้านมีความสนใจได้ทำการเข้าไปลงทำเบียนในเว็บไซต์ www.เราชนะ.com แต่ไม่สามารถลงทะเบียนได้ เนื่องจากได้สิทธิ์โครงการคนละครึ่งและโครงการเราเที่ยวด้วยกันไปแล้ว ให้รอตรวจสอบสิทธิ์โครงการเราชนะในวันที่ 5 ก.พ.2564 ชาวบ้านจึงเกิดความสงสัยเพราะไม่เคยลงทะเบียนรับสิทธิ์โครงการทั้ง 2 แต่อย่างใด จึงได้ไปที่ธนาคารกรุงไทยเพื่อขอตรวจสอบข้อมูลของตัวเอง พบว่าหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชนได้ผูกกับหมายเลขโทรศัพท์ที่ไม่เคยรู้จัก ตามที่ปรากฎเป็นข่าว
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 6 ก.พ.2564 พล.ต.ท.ยรรยง เวชโอสถ ผบช.ภ.4 เปิดเผยว่าในทางคดีมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสอบปากคำชาวบ้านที่เข้าแจ้งความ รวมทั้งบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด พร้อมทั้งตรวจสอบข้อมูลภายในโทรศัพท์ของครูฝนเพื่อเร่งรวบรวมพยานหลังฐานต่างๆให้ครอบคลุมมากที่สุด
"หลักฐานเชื่อมโยงใครก็จะเรียกมาสอบปากคำด้วย ซึ่งในเบื้องต้นพบหลักฐานที่เชื่อมโยงกันทางโซเชียลมีเดีย ที่ครูฝนพูดคุยกับ ดร.ภูผาภูมิถึงการดำเนินการต่างๆที่เกี่ยวกับการจ่ายเงินให้ชาวบ้าน ซึ่งบางส่วนตรงกับที่ได้จากชาวบ้าน จึงต้องขอหมายค้นจากศาลจังหวัดขอนแก่น เพื่อเข้าตรวจค้นจุดที่เกี่ยวข้องกับการเกิดเหตุทั้งหมด เพื่อเก็บหลักฐาน ในส่วนทางด้านพนักงานสอบสวนก็จะรวบรวมหลักฐาน เพื่อขอศาลออกหมายจับดร.ภูผาภูมิ ซึ่งเป็นครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หนองเรือ ในข้อหา 3 ข้อหา ประกอบด้วย ฉ้อโกงประชาชน,นำบัตรประจำตัวประชาชนของผู้อื่นไปใช้โดยไม่ได้รับความยินยอม และข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ตามขั้นตอนต่อไป"
ผบช.ภ.4 กล่าวอีกว่า คณะทำงานที่ร่วมกันทั้งกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ,ตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น และ สภ.บ้านฝาง จะเร่งสืบสวนสอบสวนเพื่อคลี่คลายคดีโดยเร็วเนื่องจากเป็นคดีที่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะเชื่อมโยงกับพื้นที่อื่นหรือไม่นั้นก็อาจจะเป็นไปได้แต่ทั้งนี้ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นเองจะมีการสืบสวนสอบสวนอย่างรัดกุมรอบคอบให้ได้พยานหลักฐานละเอียดที่สุดเพื่อดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด หลักฐานเชื่อมโยงใครก็จะเรียกมาสอบปากคำหากเข้าข่ายร่วมกระทำความผิดก็จะต้องถูกดำเนินคดีไปด้วยทั้งหมด และยืนยันในการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย