"ลุงพล"เปิดใจ น้ำเสียงสั่นเครือน้ำตาซึม หลังพา"ทนายตั้ม"ขึ้นเขาเหล็กไฟ

ลุงพล เปิดเผยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ และน้ำตาซึม เมื่อมาถึงจุดพบศพน้อง ระบุว่า ภาพวันที่พบศพน้องยังติดตา ตนยังคิดถึงหลาน และสะเทือนใจ ไม่ขอตอบแล้ว จากนั้นลุงพลก็เช็ดน้ำตา

นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมด้วยนายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และคณะ เดินทางขึ้นภูเหล็กไฟ จุดพบศพน้องชมพู่ โดยเลือกใช้เส้นทางบริเวณป่าสวนยางหลังบ้านน้องชมพู่ จุดนี้ เป็นลักษณะทางดิ่ง ระยะทาง 1.2 กิโลเมตร ซึ่งเป็นทางที่เดินง่ายที่สุดและ สื่อมวลชน และตำรวจก็ใช้เส้นทางนี้ในการตรวจสอบและหาพยานหลักฐานตลอดระยะเวลากว่า 8 เดือนที่ผ่านมา

การเดินครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทนายตั้ม จะพิจารณาว่า จะรับทำคดีช่วยลุงพลหรือไม่ เพราะยังมีความสงสัยปมการเสียชีวิตว่าน้องชมพู่เดินไปเสียชีวิตจุดที่พบศพได้หรือไม่ ระหว่างทางที่เดินพบว่าแค่ 500 เมตร ก็เริ่มพักแล้ว และเดินมาชั้นที่1 ลุงพล ทนายตั้ม ป้าแต๋นก็นั่งพัก


จากนั้นนายไชย์พล ได้พาทนายตั้มไปจุดพรถแบ๊คโฮ และ โขดหินที่พบกางเกง รองเท้าของน้องชมพู่ และจุดพบศพ โดยใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยกว่าจะถึงจุดพบศพน้องชมพู่ ทนายตั้ม และทีมงาน ต่างหยุดพัก และปาดเหงื่อหลายครั้ง

การเดินครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทนายตั้ม จะพิจารณาว่า จะรับทำคดีช่วยลุงพลหรือไม่ เพราะยังมีความสงสัยปมการเสียชีวิตว่าน้องชมพู่เดินไปเสียชีวิตจุดที่พบศพได้หรือไม่ ระหว่างทางที่เดินพบว่าแค่ 500 เมตร ก็เริ่มพักแล้ว และเดินมาชั้นที่1 ลุงพล ทนายตั้ม ป้าแต๋นก็นั่งพัก


จากนั้นนายไชย์พล ได้พาทนายตั้มไปจุดพรถแบ๊คโฮ และ โขดหินที่พบกางเกง รองเท้าของน้องชมพู่ และจุดพบศพ โดยใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที โดยกว่าจะถึงจุดพบศพน้องชมพู่ ทนายตั้ม และทีมงาน ต่างหยุดพัก และปาดเหงื่อหลายครั้ง