- 13 ก.พ. 2564
รวบ เคนลี เทคมีเอาท์ หลอกตุ๋นเงินเหยื่อ 10 ล้าน ผู้เสียหายแห่ขึ้นโรงพักดูหน้า
วันที่ 12 ก.พ. เวลา 14.30 น. ที่ สน.สุทธิสาร ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ออมสิน ตรารุ่งเรือง ผบก.สอท.3 พ.ต.อ.เกรียงไกร รับงาม ผกก.1 บก.สอท.3 พ.ต.อ.ชูศักดิ์ เคทอง ผกก.2 บก.สอท.2 สั่งการให้ พ.ต.ท.ภัทรเดช ภัทรบุตรเพชร พ.ต.ท.วิชาญ กลิ่นบุบผา รอง ผกก.1 บก.สอท.3 พ.ต.ท.สุระ จันทร์แก้ว พ.ต.ท.พลเดช สังข์ศิริ พ.ต.ท.ฐิตนนท์ วิชัยกุลจิรทัพ รอง ผกก.2 บก.สอท.2 พ.ต.ท.สิงหราช พิมพะกร สว.กก.1 บก.สอท.3 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.สอท.2 และ กก.สส.บก.น.2 จับกุม นายอธิคุณ โชติธนัสปิติ อายุ 25 ปี หรือเคนลี เทคมีเอ้าท์ ไทยแลนด์ หลังหลอกต้มตุ๋นผู้เสียหายหลายราย ตามหมายจับศาลแขวงพระนครเหนือ เลขที่ 76/2564 ลงวันที่ 1 ก.พ. 2564 ข้อหาฉ้อโกง เหตุเกิดท้องที่ สน.สุทธิสาร และหมายจับศาลจังหวัดธัญบุรี เลขที่ 496 /2563 ลงวันที่ 2 ธ.ค. 2563 ข้อหา ทุจริต หลอกหลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อมูลความจริง เพื่อเอาทรัพย์สินผู้อื่น และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ เหตุเกิดท้องที่ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จับกุมผู้ต้องหาได้ที่ บ้าานเลขที่ 477 ซอยรังสิตนครนายก 27 ต.ประขาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เบื้องต้นชุดจับกุมควบคุมนายอธิคม ส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เพื่อดำเนินคดีดำเนินคดี ต่อมาเมื่อผู้เสียหายกว่า 10 ราย ที่มีมูลค่าเสียหายรวมกันกว่า 10 ล้านบาท ทราบข่าวได้เดินทางมาดูตัวผู้ต้องหา
นายสุธรรม ลาภมีมาก อายุ 52 ปี ทำธุรกิจค้าขายหน้ากากอนามัย 1ในผู้เสียหายกล่าวว่า เมื่อต้นเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา หลานสาว อายุ 25 ปี ของตนทำงานบริษัทแห่งหนึ่ง ย่านบางรัก รู้จักกับนายอธิคมจากแอฟหาคู่ จีบกันอยู่สักพัก นายอธิคมอ้างว่า สามารถซื้อไอโฟน12 ได้ในราคาถูก ประมาณ 3 หมื่นบาท และได้ของแถมจำนวนมาก หลานสาวตนโอนเงินไปให้ แต่ไม่ได้ของ อ้างสารพัดว่า รองลงนามซื้อขายกับหุ้นส่วน 3 คน บัญชีของนายอธิคมถูกอายัดบ้าง ให้โอนเข้าบัญชีหุ้นส่วนคนอื่น โอนอยู่หลายครั้ง รวมเงินหลายแสนบาท และบอกว่าเงินที่โอนมาก่อนหน้านี้จะคืนให้ จึงหลงเชื่อ ต่อมานายอธิคมใช้อุบายใหม่ ถ้าหลานสาวตนต้องการเงินคืนทั้งหมดต้องช่วยเหลือตัวเองผ่านทางโทรศัพท์ให้ดู แต่ก็ไม่ยอมคืนเงินให้อีก และข่มขู่ว่าจะเอาคลิปช่วยตัวเองไปปล่อยให้อับอาย หลานสาวตนเกิดความกลัวต้องโอนเงินให้อีกหลายครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 2 ล้านบาท ทั้งนี้หลานสาวตนซึ่งรักเหมือนลูกจะมาขอเงินตนตลอดจึงสงสัยจนถามจึงรู้ความจริง และเข้าแจ้งความที่สน.ทุ่งครุ
ด้าน น.ส.มุธิดา เข็มอุทา อายุ 22 ปี ผู้เสียหายอีกรายที่เล่าว่าผู้ต้องหาทำทีชักชวนให้ตนเองซื้อโทรศัพท์ iPhone 12 ในราคา 3หมื่นบาทพร้อมของแถมจำนวนมากซึ่งถูกกว่าราคาท้องตลาดประกอบกับ ตัวเองเห็นว่าผู้ต้องหาเป็นแฟนของรุ่นพี่ที่สนิท จึงเชื่อใจสั่งซื้อไปจำนวน 1 เครื่อง แต่ผ่านมานานเป็นเดือนกลับยังไม่ได้โทรศัพท์ตนเองจึงทวงถามผู้ต้องหาอ้างว่าเปิดบริษัทเกี่ยวกับเครื่องสำอางก่อนจะประสบปัญหาทางการเงินทำให้บัญชีธนาคารของตนนั้นถูกอายัด จึงขอร้องให้ตนช่วยโอนเงินมาที่บัญชีธนาคารของผู้ต้องหาอีกหลายสิบครั้ง เพื่อใช้เป็นเครดิตให้ธนาคารเชื่อว่าบัญชีมีความเคลื่อนไหว ตนเองอยากได้เงินที่จ่ายไปก่อนหน้าคืน จึงยอมโอนเงินให้ ประกอบกับมีคนอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารโทรศัพท์มาแจ้งยอดการโอนเงินทุกครั้ง นอกจากนี้ผู้ต้องหาเองยังข่มขู่ว่าหากไม่ยอมโอนเงินมาช่วยตนจะถูกดำเนินคดีในข้อหาปลอมแปลงเอกสารเเละฉ้อโกงไปด้วย จึงยอมโอนเงินเพิ่มไปให้อีกหลายครั้ง ภายในระยะเวลากว่า 3 เดือน เบ็ดเสร็จมูลค่าความเสียหายร่วม 7เเสนบาท
มีรายงานว่า โดยหลังผู้เสียหายนำชื่อชายคนนี้ไปตรวจสอบในโลกออนไลน์ ก็พบประวัติเคยฉ้อโกงมาแล้วหลายคดี และพบมีผู้เสียหายปัจจุบันรวมกลุ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอยู่ ซึ่งจากการสอบถามในกลุ่ม ก็พบมีพฤติการณ์หลอกลวง ในแบบอื่นๆ อีก เช่น หลอกขายสินค้าแบรนด์เนมแต่ไม่ส่งสินค้าให้ หลอกร่วมลงทุนทำธุรกิจร้านสะดวกซื้อ เหตุเกิดช่วงเดือนมีนาคมปี2563 ถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ยังพบมีพฤติการณ์บ่ายเบี่ยง ข่มขู่จะทำร้ายร่างกายผู้เสียหายหรือญาติ หากนำเรื่องนี้ไปแจ้งความหรือโพสต์ประจานลงโซเชียลมีเดีย
ส่วนเหตุที่ทำให้แต่ละคดีล่าช้าออกไป เพราะชายคนนี้พยายามคืนเงินบางส่วน เพื่อให้ผู้เสียหายมีความหวังว่าจะได้เงินที่เหลือกลับคืนมา และหากถูกอายัดเงินในบัญชี ก็จะใช้เรื่องนี้ไปกดดันผู้เสียหาย ว่า ไม่สามารถนำเงินมาคืนได้ เพราะเงินถูกอายัดอยู่ และหากอยากได้เงินคืนต้องส่วนเงินมาเพิ่มเพื่อใช้เป็นเครดิตในบัญชีธนาคารทำให้เกิดเป็นความเสียหายไม่สิ้นสุด
มีรายงานอีกว่า ผู้ต้องหารายนี้ มีชื่อเล่นว่า “เคนลี” เคยเข้าร่วมหาคู่รัก ในรายการเทคมีเอาท์ไทยแลนด์ ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 เเละรายการรู้ไหมใครโสด ทางช่อง one อีกด้วย