อัจฉริยะ เผยโรงพยาบาลดัง ปล่อย พริตตี้ วาวา นอนรักษานาน 50 นาที ก่อนสิ้นใจ

วันนี้ (02/03/2564) ครอบครัวน้องวาวา พริตตี้สาวที่รับงานเอ็นเตอร์เทน บ้านหรูย่านพหลโยธิน ก่อนจะเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ พร้อม นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม เดินทางเข้าร้อง อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข กรณีที่โรงพยาบาลดังย่านเกษตร  ไม่ปฏิบัติตามยูเซ็บในการรักษาคนไข้ฉุกเฉิน โดยบังคับให้วางเงินค่ารักษาก่อน หากไม่วางเงิน จะไม่รักษาให้ นายเก่ง คนที่นำน้องวาวาส่งโรงพยาบาล จึงต้องไปดำเนินเรื่องการจ่ายเงิน ให้กับโรงพยาบาลก่อน จึงทำให้น้องวาวา ต้องนอนรอการรักษานานถึง 50 นาที ในขณะที่สภาพร่างกายค่อนข้างวิกฤต 

ทางครอบครัวของน้องวาวา เชื่อว่า หากวันนั้นทางโรงพยาบาลรักษาน้องวาวา ทันที น้องวาวาอาจไม่เสียชีวิต วันนี้จึงขอให้อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ตั้งคณะกรรมสอบสวนเอาผิดกับ รพ.หากไม่ได้รับความเป็นธรรม จะนำศพน้องวาวาขึ้นมาจาก กระบี่มาวางหน้ารพ. เพื่อทวงถามความยุติธรรม

ซึ่งผลสรุปชันสูตรที่ รับรู้คือ วาวาหัวใจล้มเหลว และ เมื่อมาเห็นคลิป หลังจากที่ทางนายอัจฉริยะ ช่วยดำเนินการให้  แม่พร้อมจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด  หากยังไม่ได้รับความเป็นธรรม แม่จะไม่เผาศพน้องเด็ดขาด

ด้าน พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รอง ผบช.น. ได้เดินทางเข้ามาร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีพริตตี้สาววาวา ที่เสียชีวิตหลังรับงานเอนเตอร์เทนที่กับนายเก่ง ที่บ้านพักย่านเสนานิคม 1 ซอย 12 แยก 2 

พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวว่า ได้มาตรวจสอบสำนวนและติดตามคดีว่าการสอบสวนเป็นอย่างไร มีผู้เกี่ยวข้องทางคดีอย่างไร รวมถึงผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ หากอะไรเร่งรัดได้ก็ให้เร่ง โดยการสอบปากคำขณะนี้ สอบผู้เกี่ยวข้อง 11 ปาก เป็นญาติผู้ตายบางส่วน และผู้ร่วมกิจกรรมด้วยส่วนหนึ่ง วันนี้สอบเพิ่ม 3 ปาก โดยมีพีอาร์ที่มาร่วมงานให้ข้อมูลว่า ช่วงตีสี่ตีห้าในวันเกิดเหตุ พริตตี้วาวามีอาการผิดปกติ ต้องสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง ยังตอบไม่ได้ว่าเป็นการบังคับให้เสพยาหรือไม่ ต้องสอบปากคำให้หมด

สำหรับการใช้ยาเสพติดนั้นยังไม่มีผลแพทย์ระบุออกมาอย่างเป็นทางการ แต่ผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ผู้ผ่า เบื้องต้นพบสารเสพติดบางชนิดในร่างกายของพริตตี้วาวา ได้แก่ เคตามีนในเลือด และยาอีปัสสาวะ ในกระเพาะอาหารมียาบ้าและยานอนหลับไดอาซิแพม แต่จะส่งผลต่อการตายหรือไม่ ต้องรอผลแพทย์อย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้สำหรับเคนมผงที่เคยเป็นคดีก่อนหน้านี้นั้นจะผสมไว้เสร็จแล้ว จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นชนิดเดียวกันหรือไม่

พล.ต.ต.จิรพัฒน์ กล่าวว่าขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับใคร เพราะต้องติดตามคนที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งรู้ตัวหมดแล้ว และได้ออกหมายเรียกไปแล้ว สำหรับการแจ้งข้อหา ผู้ร่วมงานทั้งหมดจะเข้าข่ายความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรค

>>Lazada มอบดีลสุดพิเศษ สนใจคลิก<<