- 18 มี.ค. 2564
แม่น้องปอนยังทำใจไม่ได้ สูญเสียลูกชายกะทันหัน ผอ.รร.ดังแจงกำชับเหล่าครูแล้วให้เช็คนักเรียนให้ดี ครูคุมฐานยังช็อกไม่พร้อมให้ปากคำ
สืบเนื่องจากกรณีที่เกิดเหตุการณ์สลดขณะเข้าค่ายลูกเสือ เมื่อ น้องปอน อายุ 15 ปี นักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.กาฬสินธุ์ ที่ได้ทำภารกิจในหนองน้ำที่ทางโรงเรียนใช้เป็นฐานในวิชาลูกเสือ ซึ่งก่อนหน้านั้น น้องปอน ได้บอกกับเพื่อนว่า ตนว่ายน้ำไม่เป็นและพยายามหลีกเลี่ยงกระทั่งเกิดเหตุสลดขึ้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ล่าสุดหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ได้สอบปากคำกลุ่มเพื่อนๆ และพ่อแม่ของน้องปอน ผู้เสียชีวิต รวมทั้งผู้บริหารและครูของโรงเรียน เพื่อหาสาเหตุในการเสียชีวิตแล้ว ส่วนใหญ่เพื่อนๆ ของ น้องปอน เล่าว่าการเล่นฐานนี้ ทุกคนถูกสั่งให้จำลองเหตุการณ์เหมือนกำลังหนีสงครามหลบระเบิด และมีการมุดน้ำ ซึ่งไม่มีอุปกรณ์ป้องกันและช่วยเหลือจมน้ำแต่อย่างใด พร้อมทั้งไม่มีการกั้นแนวเขตน้ำตื้นและน้ำลึก
ขณะเดียวกัน ด้านผู้อำนวยการและคณะครู เบื้องต้นยังไม่พร้อมที่จะให้ปากคำ เนื่องจากอยู่ในอาการเสียใจและช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งนายสุนทรา กุลาสา ผู้อำนวยการโรงเรียน ต.กุดโดน อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ เล่าว่า วันเกิดเหตุทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ โดยใช้สถานที่สาธารณะของหมู่บ้านที่มีสระน้ำสาธารณะที่อยู่ห่างจากโรงเรียนประมาณ 20 เมตร เป็นสถานที่ในการจัดกิจกรรมค่ายลูกเสือทุกปี และในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ได้ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มกัน กลุ่มละ 13 - 15 คน เข้าร่วมกิจกรรมฐานต่างๆ รวม 6 ฐาน และแต่ละฐานจะมีครูควบคุมดูแล 2 คน
แต่ฐานที่เกิดเหตุเป็นฐานสุดท้าย ที่ได้ให้นักเรียนลงไปในน้ำ เพื่อล้างเนื้อล้างตัว แต่ก่อนเกิดเหตุทางคณะครูก็ได้มีการเฝ้าระวังและเช็กจำนวนนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมทุกฐาน ส่วนกรณีนักเรียนที่จมน้ำเสียชีวิตนั้น คาดว่าไม่มีใครสังเกตเห็น เพราะก่อนเกิดเหตุมีเด็กนักเรียนคนหนึ่งไม่ได้มาร่วมกิจกรรมในช่วงเช้า แต่กลับมาเข้าร่วมในช่วงบ่าย ซึ่งทางคณะครูผู้ควบคุมได้เช็กจำนวนนักเรียนหลังจากทุกคนขึ้นมาจากหนองน้ำก็พบว่าครบจึงไม่ได้เอะใจ กระทั่งมาทราบทีหลังว่าหายตัวไปและจมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งทางโรงเรียนและคณะครูก็รู้สึกเสียใจอย่างมาก ยืนยันว่าไม่ได้บังคับให้เด็กลงน้ำ
ด้าน แม่ของ น้องปอน ผู้เสียชีวิต เล่าว่าเพื่อนๆ เห็นลูกครั้งสุดท้ายตอนที่ลงสระน้ำตอนเข้าฐาน คาดว่าน่าจะจมน้ำ จึงประสานเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ กระทั่งพบว่าลูกชายจมน้ำเสียชีวิตจริงๆ
นอกจากนี้แม่เด็กชายผู้โชคร้ายยังได้ฝากถึงคณะครูอีกว่า อยากให้ครูดูแลเด็กให้ดีกว่านี้ รอบคอบกว่านี้ ถ้าเป็นไปได้เข้าค่ายอย่าให้เด็กๆ ลงน้ำ โดยเฉพาะคนที่ว่ายน้ำไม่เป็น อย่างเช่น ลูกชายของตน เพราะทางครอบครัวเสียใจมากที่ต้องสูญเสียลูกชายกระทันหันเช่นนี้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตรวจสอบและให้ดำเนินการอย่างถึงที่สุด เพื่อให้ความเป็นธรรมกับลูกชายของตนด้วย