สาว ๆ ฟังไว้! ตรวจสุขภาพทั้งที อย่ามองข้ามการตรวจเนื้องอกมดลูก

เมื่อเวลาเวียนมาบรรจบครบ 1 ปี นอกเหนือจากการทบทวนเรื่องต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแล้ว การหาเวลาไปตรวจสุขภาพก็ถือได้ว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะในบางครั้ง ร่างกายของเราอาจมีโรคร้ายแฝงอยู่ภายในได้โดยไม่รู้ตัว ดังนั้น การตรวจสุขภาพก็จะช่วยให้เรารู้ความผิดปกติและหาวิธีรับมือแต่เนิ่น ๆ นั่นเอง แต่สำหรับสาว ๆ ทุกรุ่นทุกวัยนั้น นอกจากจะตรวจสุขภาพโดยรวมแล้ว การตรวจหาเนื้องอกมดลูกเองก็เป็นสิ่งที่ควรบรรจุอยู่ในรายการตรวจเช่นเดียวกัน แล้วทำไมถึงต้องตรวจ? การตรวจจำเป็นแค่ไหน? มาไขข้อสงสัยไปพร้อม ๆ กันได้เลย! 

เนื้องอกมดลูกคืออะไร 

ก่อนที่จะไปดูกันว่า เราตรวจเนื้องอกมดลูกไปเพื่ออะไร เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าเนื้องอกก้อนนี้คืออะไรกันแน่ ซึ่งแพทย์ส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า เนื้องอกส่วนนี้อาจเกิดขึ้นจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในรังไข่ที่ไม่เท่ากันในแต่ละช่วงวัย โดยเนื้องอกนี้อาจเกิดได้ 3 บริเวณได้แก่ ภายในกล้ามเนื้อมดลูก นอกมดลูก และโพรงมดลูก  

เนื้องอกมดลูกเป็นอันตรายกับร่างกายขนาดไหน 

ในบางกรณี เนื้องอกมดลูกอาจฝ่อไปเมื่อถึงวัยหมดประจำเดือน แต่สำหรับสาว ๆ บางคน เนื้องอกส่วนนี้อาจส่งผลให้ประจำเดือนมาผิดปกติและเป็นอันตรายได้ เช่น อาการปวดท้อง เป็นประจำเดือนนานและมามากกว่าปกติจนอาจเกิดเป็นอาการซีดได้ และในประจำเดือนอาจมีลิ่มเลือดปะปนได้ เป็นต้น  

ที่สำคัญ เนื้องอกชนิดนี้อาจทำให้เกิดภาวะผิดปกติในร่างกายอื่น ๆ เช่น อาการท้องโตโดยไม่ทราบสาเหตุ เนื้องอกไปเบียดทับกระเพาะปัสสาวะจนทำให้ปัสสาวะแล้วปวดหรือไม่สุดจนอาจเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ 

นอกจากนี้ เนื้องอกภายในมดลูกนั้นอาจส่งผลให้สาว ๆ ที่กำลังสร้างครอบครัวมีบุตรยากและมีโอกาสเสี่ยงในการแท้งสูง เนื่องจากเนื้องอกทำให้ท่อนำไขอุดตันจนทำให้ตัวอ่อนฝังตัวไม่ได้ ดังนั้นสาว ๆ ทุกคนจึงต้องระวังให้มาก 

หนทางการรักษา 

เนื้องอกมดลูกนั้นมักพบเห็นและสังเกตได้ยากด้วยตาเปล่า แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะพบได้จากการตรวจสุขภาพ เช่น การอัลตราซาวน์ การตรวจภายในเพิ่มเติม เป็นต้น ซึ่งหากสาว ๆ คนไหนพบเนื้องอกดังกล่าวในมดลูก สิ่งที่ต้องควรทำเป็นอย่างยิ่ง คือ อย่าได้นิ่งนอนใจและคิดว่าเนื้องอกไม่ได้เป็นปัญหาใด ๆ และให้รีบเข้าพบแพทย์เพื่อหาความผิดปกติเพิ่มเติมทัน โดยแพทย์จะตรวจดูว่า เนื้องอกนั้นขึ้นที่ส่วนไหน เป็นอันตรายหรือไม่ และมีขนาดที่โตขึ้นเรื่อย ๆ หรือเปล่า เพราะหากเราไม่เข้าไปปรึกษา เราไม่มีทางรู้เลยว่า เราจะจัดการเนื้องอกมดลูกได้อย่างไรกันแน่