- 05 พ.ค. 2564
สาวติดโควิด-19จากคลัสเตอร์ทองหล่อ ติดเชื้อนานกว่า18วัน ติดต่อไปไร้หน่วยงานใดให้การช่วยเหลือ ตัดสินใจกักตัวอยู่บ้าน โทรไปปรึกษาเเม่ เเนะนำให้ใช้สมุนไพรพื้นบ้านรักษา วอนรัฐเข้ามาตรวจหาเชื้ออีกครั้ง
นางสาวสิวนารถ เล่าให้ฟังว่า เมื่อต้นเดือนเมษายนตนได้ไปใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิดที่มีคลัสเตอร์ร้านคริสตัลทองหล่อมาจึงไปตรวจหาเชื้อโควิดที่โรงพยาบาลปรากฎว่าไม่ติดเชื้อ หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ตนเองได้มีอาการป่วยน้ำมูกไหลและไอปวดเบ้าตาตนจึงกักตัวอยู่บ้าน และวันที่ 16 เม.ย.64 ตนเองเริ่มมีอาการหนักขึ้นจึงตัดสินใจขับรถไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งย่านนนทบุรีอีกครั้ง แล้วกลับมาดูอาการกักตัวเองอยู่ที่บ้านช่วงระหว่างที่ตนดูแลตัวเองอยู่บ้าน มีอาการไอและมีไข้แต่ก็พอดูแลตัวเองได้อยู่
และวันที่ 18 ทางโรงพยาบาลได้ติดต่อกลับมาบอกผลตรวจว่าตนติดเชื้อโควิด ทางโรงพยาบาลจึงถามว่ามีประกันอะไรไหม ตนจึงตอบไปว่ามีบัตรทอง30บาท โรงพยาบาลจึงบอกว่าเดี๋ยวจะติดต่อกลับมาอีกครั้ง ตนเองก็ได้แต่รอ แต่โรงพยาบาลก็ไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย พอมาช่วงวันที่ 19 เม.ย. ตนจึงให้เพื่อนซื้อยาวิตามินรวม วิตามินบี5 วิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม กินเช้าก่อนนอน ก็ช่วยลดไข้ได้ส่วนหนึ่ง แต่ยังแน่นหน้าอกอยู่ พอมาวันที่ 20-24เม.ย.ตนเองเริ่มมีอาการหนักขึ้น/แน่นหน้าอกหายใจไม่ค่อยสะดวก /ไอ/ปวดหัว/ปวดเบ้าตา/หนาวไปถึงกระดูก ขณะนั้นอาการหนักมาก ตนจึงโทรศัพท์ไปหมายเลขต่างๆที่รัฐบาลแจ้งไว้เพื่อให้การช่วยเหลือ แต่ไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามาช่วยเหลือสักหน่วยงาน
มีแต่ทางเพจ”สายไหมต้องรอด”นำถุงยังชีพของท่านพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดาเข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้น ตนจึงตัดสินใจโทรศัพท์หาแม่ที่อาศัยอยู่ต่างประเทศว่าตนป่วยเป็นโรคโควิด แม่จึงแนะนำวิธีรักษาแบบพื้นบ้านโดยการให้ต้มน้ำเปล่าผสมกับน้ำส้มสายชูนิดนึงแล้วสูดดมควันจากหม้อต้มเพื่อจะได้หายใจสะดวกขึ้น
และใช้สมุนไพรพื้นบ้านรักษา นำหอมแดงมาต้มใส่น้ำเพื่อกินแทนน้ำเปล่า และนำข่าตะไคร้ใบมะกรูดมาต้มใส่น้ำกินเช้า-กลางวัน-เย็น ทุกวัน จากนั้นวันที่ 25 เม.ย.อาการตนเองเริ่มดีขึ้นไม่มีไขเริ่มหายใจได้ปกติ ตนจึงรักษาด้วยวิธีนี้มาตลอดจนถึงปัจจุบัน
ตนอยากให้หน่วยงานรัฐเข้ามาช่วยเหลือ ติดต่อมาถามอาการ พาไป เอ็กซเรย์ปอดว่ายังมีเชื้อหลงเหลืออยู่ไหม ถ้าไม่มีเชื้อแล้ว จะได้นำข้อมูลการรักษานี้เป็นวิทยาทานสำหรับผู้ป่วยท่านอื่นต่อไป
ทางด้านเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วยสส.เขตสายไหม กล่าวว่า เคสนี้นางสาวสิวนารถ ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือมาทางเพจ”สายไหมต้องรอด”ให้หาหน่วยงานรัฐบาลเข้ามาดูแลอาการการป่วย ซึ่งทางเราได้นำถุงยังชีพมาแจกไว้เบื้องต้นแล้ว เนื่องจากผู้ป่วยไม่สามารถออกไปซื้ออาหารมากินเองได้
จากนั้นได้ประสานกับโรงพยาบาลให้เข้าไปตรวจหาเชื้อพร้อมเอ็กซเรย์ปอดอีกรอบโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆแล้ววันนี้ อยากฝากถึงผู้ป่วยที่ตกสำรวจหรือเข้าไม่ถึงการรักษาพยาบาลของรัฐ ให้นำเคสผู้ป่วยรายนี้เป็นเตาตัวอย่างในการใช้สมุนไพรพื้นบ้านรักษาอาการ และท่านยาสามัญประจำบ้านตามอาการ และอยากฝากหน่วยงานของรัฐให้เข้ามาตรวจสอบพื้นที่สายไหมอีกครั้ง เพราะพื้นที่สายไหมยังมีผู้ป่วยโควิดที่ตกสำรวจไม่ได้รับการรักษาอีกจำนวนมาก
ขอบคุณข้อมูลจาก ThaiNews