- 03 มิ.ย. 2564
จากกรณีศาลจังหวัดมุกดาหาร อนุมัติหมายจับนายไชย์พล วิภา หรือลุงพล 3 ข้อหา คือพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ไปเสียจากบิดามารดาโดยปราศจากเหตุอันควร, ทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปี เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน
วันที่ 2 มิถุนายน 2564 รายการ โหนกระแสได้เชิญ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ มาสัมภาษณ์ กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับ ลุงพล ไชย์พล วิภา คดีการเสียชีวิตของ น้องชมพู่ จากชาวบ้านธรรมดา กลายเป็นคนดัง และกำลังกลับไปสู่ผู้ต้องหา
เรื่องซีรีส์บ้านกกกอก ?
อัจฉริยะ : เมื่อเช้าเราใช้ยุทธการฟ้าสาง เด็ดปีกวังพญานาค เรื่องนี้จริง ๆ เป้าหมายเราต้องทำกันตั้งแต่เดือนที่ผมบอกคือกุมภาพันธ์ทำไว้ตั้งแต่ก่อนปีใหม่ จะบอกว่าเขา
จะจับลุงพลตั้งแต่ก่อนปีใหม่เหรอ แล้วทำไมไม่จับ ?
อัจฉริยะ : มันจับไม่ได้ เขากำลังตรวจเส้นผมอยู่ เส้นผม 3 เส้น
มันมีอะไรที่กล่าวหาเขาได้ว่าเขาเป็นคนทำ ?
อัจฉริยะ : เปิดคลิปแรกเลย วันที่เจอศพ เป็นคลิปที่เรามองครั้งแรก เรารู้เลยว่าคนนี้คือผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัย เพราะร้องไห้ยังกะควายถูกเชือดแต่ไม่มีน้ำตาสักแอะ แล้วรู้ได้ไงว่าเด็กอดข้าว แล้วรู้ได้ยังไงว่าเด็กขึ้นเขา
ประเด็นสำคัญตรงจุดที่เขาบอกว่าหลานไปอยู่ข้างบน มีคนเอาไปปล่อยให้อดข้าวตาย บอกว่าให้ดักเลย ผู้ร้ายน่าจะไหวตัวทัน บอกว่ามีคนลักพามา มีคนหายจากหมู่บ้านคนหนึ่ง เป็นชายอายุ 30 กว่า เขาคาดว่าเขาน่าจะหมดอาหารให้กินแล้ว ทำให้หลานเขาตาย เขาร้องไห้ไม่มีน้ำตา แล้วยังไง ?
อัจฉริยะ : ร้องไห้เหมือนควายถูกเชือดแต่ไม่มีน้ำตา สิ่งที่เราสงสัย ส่งคนไปฝังตัวเป็นยูทูบเบอร์ หลังจากดูคลิปนี้เรามั่นใจว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยมากที่สุด เพราะน้องชมพู่ไม่มีใครรู้จักมาก่อน แล้วเป็นเด็กที่หมู่บ้านนี้ไม่มีใครรู้จัก แล้วไม่มีใครรู้จักภูเขาภูเหล็กไฟ ในประเทศไทยถ้าไม่ใช่คนในพื้นที่กกกอกเขาไม่รู้จัก แล้วชมพู่มีนิสัยแปลกอย่าง ถ้าไม่ใช่คนสนิทจริงจะไม่ให้อุ้มเลย ภาพคลิปวิดีโอเมื่อกี้ เราเห็นตั้งแต่วันแรกที่ช่อง 3 เอามาออก เราก็จับตามองอยู่แล้ว และคิดว่ามันน่าจะผิดปกติ เริ่มทำการสืบสวนสอบสวนทางลับ โดยส่งสายลับเข้าไปร่วมกับทางทีมตำรววจ ก็ดูมาโดยตลอด มันมีเรื่องที่เขาอ้างว่ามีคนโทร. ไปบอกเขาว่าหลานหาย ทั้งที่ ๆ บ้านมีโทรศัพท์เครื่องเดียว แล้วบอกโทรศัพท์ไปหาเขา และโทรศัพท์มี 2 ซิม โทรศัพท์อยู่ที่เมียแล้ว แล้วเขาเอามือถือไหนมารับ
คำพูดคำหนึ่งของลุงพล ที่บอกว่าเอาหลานไปอดอาหารตายอยู่ข้างบน แต่ไปดูคลิปนี้ วันที่ผมได้สัมภาษณ์ลุงพลคนแรก ครั้งแรกที่เขาได้ออกทีวี และภาพบรรยากาศสัมภาษณ์ลุงพลวันที่ 18 พฤษภาคม ปี 2563 ผ่านไปไม่กี่วัน น้องหายวันที่ 11 พฤษภาคม เจอศพน้องวันที่ 14 วันที่ 18 ลุงพลพาน้องมาชันสูตรครั้งที่สอง ที่กรุงเทพฯ วันนั้นผลออกมาว่ามีร่องรอยบาดแผลที่อวัยวะเพศ ลุงพลถึงกับร้องไห้กลั้นน้ำตาไม่อยู่ ผมก็ตกใจว่าการที่แจ้งไปแบบนั้นไม่ดีอยู่แล้ว ผมก็ถามว่าลุงพลร้องทำไม เขาบอกว่าเขาร้องไห้ดีใจ เขาปีติ เพราะเขามั่นใจว่าน้องถูกข่มขืน เพราะเขาบอกว่าอวัยวะเพศช้ำมาก อยากให้สังเกตอย่างหนึ่งว่าเขาพูดไม่เหมือนกัน
วันที่เจอน้องชมพู่ในวันที่ 14 เขาบอกว่ามีคนร้ายวิ่งหนีไป ให้ตำรวจไปดักรอเลย มีคนในหมู่บ้านคนหนึ่งเอาชมพู่ขึ้นไปแล้วให้อดอาหารจนตาย ไม่ได้พูดถึงเรื่องการข่มขืน ทั้งที่สภาพศพ เด็กนอนอยู่ในสภาพขาผิดรูป อ้าออก เสื้อผ้าไม่มี สิ่งแรกถ้าคนเห็นภาพนั้น จะพูดหรือบรรยายออกมา แน่นอนต้องนึกถึงการข่มขืนก่อนเลย แต่ลุงพลไม่ได้พูดถึงการข่มขืน แต่พูดลักษณะว่าเด็กอดอาหารจนตาย แต่ผ่านไปแค่ 4 วัน มาสัมภาษณ์กับผม ลุงพลบอกว่ารู้สึกดีใจที่ศพของน้องมีร่องรอยการข่มขืน มันคืออะไร ?
อัจฉริยะ : จริง ๆ เรามีคลิปเป็นร้อยกว่าคลิป ที่เก็บคำให้สัมภาษณ์ลุงพลผ่านยูทูบเบอร์ ผ่านรายการต่าง ๆ ก็ดี เป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น และไม่เคยพูดเหมือนกันสักครั้งหนึ่ง อันนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่เราเชื่อมั่นว่าเขาเป็นผู้ต้องสงสัยมาโดยตลอด พูดตรง ๆ นะ ถ้าไม่มีสื่อไปปั้นจนเขาเป็นซูเปอร์สตาร์จนได้เป็นดาราดัง ผมบอกได้เลยว่าคดีนี้ปิดตั้งนานแล้ว สมมตินาย ก. ไปสอบปากคำกับตำรวจ พอออกมาสื่อเอาไมค์ไปจ่อปาก โดยมีนายไชย์พลไปควบคุมกำกับ ทำให้สิ่งที่พยานปากนี้ให้การ มันก็ถือว่าไม่อยู่กับร่องกับรอย ถ้าภาษากฎหมาย ทำให้ตำรวจปวดหัวกับคดีนี้เป็นอย่างมาก เพราะมีการดันดาราไง ทำให้การทำคดีมันยาก ประกอบกับคดีนี้เป็นคดีที่มีวัตถุพยานคือเส้นผมน้องชมพู่ และเส้นผมอีกเส้นที่ติดอยู่ที่กางเกงน้องชมพู่ในวันที่เกิดเหตุ
ตรวจดีเอ็นเอต้องไปทั้งเส้น แต่นี่เป็นรอยตัด พอรอยตัดมันตรวจดีเอ็นเอไม่ได้ ?
อัจฉริยะ : ใช่ ต้องเอามาเทียบเส้นกัน ใช้ระบบนึงซึ่งคือไมโตคอนเดรีย เป็นการฉายแสง
วันนี้ถือว่า end game ปิดฉากคดีน้องชมพู่ที่บ้านกกกอก จากคนดัง สู่ผู้ต้องหา กรณีนี้ คิดว่ายังไง ทำไมทนายตั้มมาเล่นคดีนี้ แล้วพี่ก็มายุ่งคดีนี้ เป็นเรื่องคนสองคนที่เป็นปรปักษ์กันหรือเปล่า ?
อัจฉริยะ : ไม่ใช่ครับ เราทำคดีมาตั้งแต่แรกแล้ว เราลงพื้นที่มานานแล้ว เราเป็นทีมทนายให้แม่น้องชมพู่ในคดีนี้ ทีนี้เขาเพิ่งมาทีหลัง ที่อ้างเงื่อนไข 3 ข้อ ก็รู้อยู่แล้วว่าเขาต้องเอาอยู่แล้ว โดยนิสัยเขา เขาต้องการเอาชนะผมอยู่แล้ว โดยไม่คำนึงว่าผู้สูญเสียคือใคร แต่ผมอยู่กับผู้สูญเสียอยู่แล้วทุกคดี ไม่ว่าคดีน้องหญิง คดีเอมี่ ผมดำเนินคดีกับไชย์พลเรื่องบุกรุกป่าสงวนและหลาย ๆ คดี
ผมถามทนายตั้มว่าวันนี้เป็นการจับกุมหรือมอบตัว ทนายตั้มบอกว่ามอบตัว แต่ทางท่านโฆษกยืนยันว่าจับกุมตัว เพราะเขาออกหมายจับที่กกตูม ถ้าจะมอบตัวต้องมอบที่โน่น ?
อัจฉริยะ : เป็นทนายระดับประเทศแล้วโง่ขนาดนี้ไม่รู้จะพูดยังไง
เดี๋ยวเขาฟ้องอีก เขาบอกเขาไม่รู้เรื่อง เมื่อวานลุงพลไม่รู้ว่ามีการออกหมายจับ ?
อัจฉริยะ : ผมมีหลักฐานเป็นไลน์กลุ่ม ทนายตั้มจะให้สัมภาษณ์ที่ไหน หน้าบ้านลุงพลครับ เจอกันที่มุกดาหารหรือสกลนครคะ เดี๋ยวว่ากันอีกที นักข่าวถามว่าจะไปสัมภาษณ์ที่ไหน เขาบอกหน้าบ้านลุงพล นี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว อย่าใช้เหลี่ยมเกิน อย่าใช้วาทศิลป์ในการพูดให้ตัวเองดูหล่อ เพราะปกติก็ไม่หล่ออยู่แล้ว
จะบอกว่าทนายตั้มรู้อยู่แล้วว่ามีการออกหมายจับ ?
อัจฉริยะ : เมื่อวานตอน 4-5 โมงเย็นไลฟ์อยู่ที่บ้าน และแอบออกทางหลังสวนยาง แล้วมาโผล่ที่กรุงเทพฯ ได้ไง แล้วตัวเองบอกว่าจะไปมุกดาหาร บอกนักข่าวแบบนั้นในไลน์กลุ่ม มีหลักฐาน เขารู้อยู่แล้ว อยู่ ๆ จะมา สตช. เขารู้อยู่แล้วว่ามาทำไม เพราะหัวหน้าสอบสวนอยู่ที่กกตูมครับ
อยากฝากอะไรถึงลุงพล ?
อัจฉริยะ : 144 คดีไม่เคยรอลงอาญา ยกฟ้องหมด มันโง่ไง มันคิดว่ามันฉลาดมาโดยตลอด แต่ลืมไปว่าที่ดันดาราเป็นเพราะใคร แล้วที่มาเป็นผู้ต้องหาเพราะความฉลาดของมัน
ขอบคุณ โหนกระแส
ขอบคุณข้อมูลจาก ThaiNews