- 09 มิ.ย. 2564
พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ได้แถลงการณ์ว่า จากกรณีได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพิจารณาข้อบกพร่อง ส.ต.ต.ฉัตรมงคล สมแก้ว หรือ ยิว ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กําหนดในกฎ ก.ตร.ว่าด้วยการสืบสวนข้อเท็จจริง
สําหรับประเด็นการปฏิบัติงานแบบ Work from home หรือการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งนั้น สืบเนื่องจากห้วงเดือนพฤษภาคม 2564ได้มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 และมีข้าราชการตํารวจในสังกัด ภ.จว.ปัตตานี ซึ่งทําหน้าที่ยามรักษาการณ์ทางเข้า-ออก ได้รับเชื้อ และกลุ่มเสี่ยงที่ต้องทําการกักตัว จํานวนหลายนาย ผู้บังคับบัญชาจึงได้มีนโยบายให้ทํางานนอกสถานที่ตั้ง เพื่อลดความแออัดในสถานที่ทํางาน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ประกอบกับตามหนังสือจังหวัดปัตตานีแจ้งให้หน่วยราชการพิจารณาดําเนินการ เรื่องข้อกําหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 22 และ 23 เรื่องการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้ง เพื่อลดการเดินทางของเจ้าหน้าที่ ลดจํานวนบุคคลที่อยู่ประจําสถานที่ตั้ง เพื่อป้องกันและลดโอกาสเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อและให้ดํารงการติดต่อสื่อสารได้ตลอดเวลา พร้อมถูกเรียกตัวกลับมาปฏิบัติงาน ณ ที่ตั้งได้ทันที
คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้ดําเนินการเสร็จสิ้นแล้วปรากฏข้อเท็จจริงว่าการกระทําของ ส.ต.ต.ฉัตรมงคล สมแก้ว หรือ ยิว มีการใช้สื่อสังคมออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ชื่อ รัชนก สุวรรณเกตุ เมื่อวันศุกร์ที่ 21 พ.ค. 2564 เวลา ประมาณ 20.00 น. และได้มีการกล่าวถึงในประเด็นคําพูด “Work From Home” ซึ่งเป็นการใช้คําพูดที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขาดการยั้งคิดไตร่ตรอง และไม่อธิบายให้บุคคลทั่วไปที่ติดตามทางสื่อสังคมออนไลน์ได้เข้าใจอย่างถูกต้อง จึงทําให้ประชาชนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบ ส่งผลทําให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของหน่วยงานและสํานักงานตํารวจแห่งชาติ
ดังนั้นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพิจารณาเห็นว่าการกระทําของ ส.ต.ต.ฉัตรมงคล สมแก้ว หรือ ยิว เป็นการกระทําที่ขาดความรอบคอบในการคิดวิเคราะห์การใช้ถ้อยคําเพื่อสื่อสารกับคนทั่วไป ไม่ระมัดระวัง ขาดการไตร่ตรอง ทําให้ถ้อยคําที่สื่อความหมายออกไปแล้วเกิดความเคลือบแคลงสงสัย จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงลบจากบุคคลทั่วไปเป็นจํานวนมาก
ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของสํานักงานตํารวจแห่งชาติ และเกิดความเสียหายต่อข้าราชการตํารวจโดยส่วนรวม ประกอบกับ ส.ต.ต.ฉัตรมงคล สมแก้ว ยอมรับว่าเป็นความผิดของตนจริง ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้มีการสั่งการและกําชับแล้ว
ถือได้ว่า พฤติการณ์การกระทําของ ส.ต.ต.ฉัตรมงคล สมแก้ว เป็นความผิดวินัยอย่างไม่ร้ายแรงตาม พ.ร.บ.ตํารวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 7 กล่าวคือต้องปฏิบัติตามคําสั่งของผู้บังคับบัญชาซึ่งสั่งในหน้าที่ราชการโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของทางราชการ โดยไม่ขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงต้องไม่ใช้กิริยาวาจาหรือประพฤติตนในลักษณะที่ไม่สมควร และต้องไม่กระทําหรือละเว้นการกระทําใดๆ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการหรือให้เสียระเบียบแบบแผนวินัยตํารวจ ในการนี้ ผู้บังคับบัญชาจึงสั่งลงโทษภาคทัณฑ์ ส.ต.ต.ฉัตรมงค สมแก้ว