- 27 มิ.ย. 2564
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ติ๊ก สิริทัศน์ สมเสงี่ยม โพสต์เล่าประสบการณ์ที่น่าจะเป็นแนวคิดให้กับใครหลายคนที่กำลังคิดริเริ่มที่จะประกอบธุรกิจได้เป็นอย่างดี หลังจากที่เจ้าตัวตัดสินใจลงทุนทำร้านข้าวมันไก่ แต่ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน ก็ต้องปิดกิจการลงไป ซึ่งสาเหตุหลักไม่ได้มาจากรสชาติของอาหาร
ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ติ๊ก สิริทัศน์ สมเสงี่ยม โพสต์เล่าประสบการณ์ที่น่าจะเป็นแนวคิดให้กับใครหลายคนที่กำลังคิดริเริ่มที่จะประกอบธุรกิจได้เป็นอย่างดี หลังจากที่เจ้าตัวตัดสินใจลงทุนทำร้านข้าวมันไก่ แต่ภายในระยะเวลาเพียง 2 เดือน ก็ต้องปิดกิจการลงไป ซึ่งสาเหตุหลักไม่ได้มาจากรสชาติของอาหาร
ผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์ข้อความระบุว่า.. 2เดือน....เจ๊ง!!!! วันนี้เรามาถอดบทเรียน...ความล้มเหลว ของ อีกธุรกิจของผมกัน ร้านนี้ผมตั้งใจจะทำให้แฟน เห็นว่า ครอบครัวเราก็เคยทำและทำได้ไม่แพ้ใครรสชาติ ไม่ได้ทำให้เจ๊งนะครับ แต่ที่เจ๊ง เจ๊งเพราะ...คน เพราะตัวผมเองนี่แหละ
1. อาหารที่ทำออกมา...ไม่ตรงปก ผมไปเอารูปในเน็ตมา ทำเป็นเมนู แล้วทำออกมา...ไม่ตรงปก ทั้งหน้าตาอาหารและภาชนะ
2. พอทำออกมาไม่ตรงปก ก็เท่ากับว่า สร้างความผิดหวังให้ลูกค้า สิ่งที่ร้ายแรงที่สุดในการทำธุรกิจ คือทำให้ลูกค้า...ผิดหวัง!!
3. ไม่มีระบบในการทำงานที่ชัดเจน พ่อทำอย่างนึง แม่ทำอย่างนึง ผมทำอย่างนึง แต่ละคนทำคนละแบบ เหมือนนักดนตรี เล่นคนละโน๊ตนั่นแหละ มันจะเป็นเพลงได้ยังไง
4. แผลนี้ใหญ่สุดที่ทำเอา...เจ๊งเลย คือลูกค้าสั่งใส่กล่องกลับบ้าน เขาเปิดกล่องมา...ตกใจเลย โคตรเหี้x ไม่ตรงปกไม่พอ....น้อยด้วย
5. ลูกค้าโพสต์ประจานในกลุ่มอาหาร เท่านั้นแหละ ฉิบหาxเลยคนมารุมด่า วิพากษ์วิจารณ์ ซึ่งผมก็ยอมรับความผิดนะ แต่ก็อย่างว่า ชาวเน็ต ก็คือชาวเน็ต คนพวกนี้ ด่าได้ทุกคน ด่าได้ทุกเรื่อง ขอให้กูได้ด่า หลายคนที่ด่า ไม่เคยมาแดxด้วยซ้ำ!!
วันนั้นแหละ ผมถึงเข้าใจโซเชี่ยลมีเดีย ว่ามีแต่คนออกมาด่า ขอด่าไว้ก่อนผมตัดสินใจเลิกทำ ใน2เดือน เพราะไม่มีลูกค้าเลย ครั้งนั้นหมดไป2แสน ทั้งค่ามัดจำห้อง ค่าอุปกรณ์ต่างๆ เจ๊ง!!!
ผมเจ๊ง ผมกล้าออกมายอมรับความจริงนะ ผมกล้าที่จะยืดอกรับความผิดตัวเอง ไม่คิดโทษใครเลย และที่ผมเล่าเพราะผมไม่อยากให้ใครต้องมาพังแบบผมอีก ผมถึงย้ำเสมอว่าทำธุรกิจ อย่าเที่ยวไปเอารูปคนอื่นมา ต้องใช้รูปตัวเอง
อีกเรื่องที่อยากจะสื่อ คนในสังคมส่วนใหญ่ อวดแต่ความสำเร็จ อวดแต่สิ่งที่ตัวเองทำได้ อวดแต่รางวัล พูดถึงแต่ด้านดีๆของตัวเอง มีกี่คนกันวะ...? กล้าออกมาบอก กล้าออกมายอมรับ ว่าตัวเอง...เจ๊ง ล้มเหลว
ผมจะบอกให้ คนบางคน เจ๊งแล้ว ยังไม่ยอมรับความจริงเลย ว่าเจ๊งเพราะตัวเอง บางคนไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าตัวเองเจ๊ง...เพราะอะไร บางคน....พูดเอาหล่อ ไม่มีเวลาทำ เลยไม่ทำ ทั้งๆที่ตัวเองรู้ดี ว่าตัวเองนั่นแหละ...ทำเจ๊ง
บางคนxม่ง...หนักเลย เจ๊ง แล้วเสือกโทษคนอื่น ผมเจ๊งเพราะมีปัญหากับเพื่อนครับ ผมเจ๊งเพราะนั่นนี่โน่นครับ ผมจะบอกอะไรให้ เหรียญมี3ด้าน หัว ก้อย และขอบ อย่ามองแค่ด้านเดียว ไอ้ที่เห็นสำเร็จๆ บางคนเป็นความสำเร็จจอมปลอมด้วยซ้ำ
เพราะคนส่วนมาก จะพูดแต่ด้านดีๆของตัวเองทั้งนั้น ส่วนใหญ่อาย ที่จะบอกใครว่าเจ๊ง ส่วนใหญ่ เลือกกจะโยนความผิดให้คนอื่น ส่วนใหญ่ไม่ยอมรับความจริงด้วยซ้ำ ผมนะ เจ๊งก็บอกเจ๊ง แพ้ก็บอกแพ้ ทำไม่ได้ก็บอกทำไม่ได้ และไม่คิดหนีปัญหาด้วย
ถ้าผมเป็นคนยอมแพ้ง่ายๆ หนีปัญหา ผมจมดินไปนานละ สมัยนี้แค่โกงครั้งเดียว ฉิบหายตลอดชีวิต!!! ที่ผมไม่พัง ไม่ตายเสียที เพราะผมกล้าที่จะยอมรับความจริง กล้าที่จะสู้กับปัญหา คนเราอะนะ อย่าอวดแต่ด้านดีๆ ด้านสำเร็จ ไอ้ที่เปิดตัวยิ่งใหญ่แล้วหายไปเงียบๆ ก็มีให้เห็นเยอะแยะ!!!
สิ่งที่ผมเรียนรู้ จากชีวิต ประสบการณ์ก็คือ สร้างเนื้อสร้างตัวง่ายกว่าสร้างภาพ สร้างภาพแม่ง....เหนื่อย จมไม่ลง ต้องหลอกทั้งคนอื่นและตัวเองตลอดเวลา และที่คน ยังให้โอกาสผมอยู่ เพราะผมเป็นคนแบบนี้แหละ เจ๊งกูบอกเจ๊ง ผิดกูยอมรับความจริง คนเรา มันไม่สำเร็จทุกเรื่องหรอก และมันก็ไม่ล้มเหลวตลอดไปหรอก
สุดท้ายนี้ผมจะบอกว่า เกิดเป็นคน ยอมรับความผิดของตัวเองไม่ได้ ชีวิตนี้มึงจะไปยอมรับความจริงอะไรได้? หลอกใครก็หลอกได้ แต่หลอกตัวเองไม่ได้
ที่มา สิริทัศน์ สมเสงี่ยม