- 02 ก.ค. 2564
ผอ.โรงพยาบาลแจงแล้ว จากดราม่าพยาบาลโหมงานจนเป็นลม "เกิดขึ้นจริง" พร้อมเผยสาเหตุเกิดจากการสวมใส่ชุด PPE เกลี้ยกล่อมเด็กที่ติดเชื้อโควิดเนื่องจากเด็กกลัวไม่กล้าไปกับเจ้าหน้าที่
จากกรณีพยาบาลสาวรายหนึ่งโพสต์ข้อความสุดอัดอั้นลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัวหลังเพื่อนพยาบาลเป็นลม สาเหตุเนื่องจากสวมใส่ชุด PPE เป็นเวลานาน อีกทั้งยังได้บอกว่าพวกตนโหมงานหนักกันมาตั้งแต่โควิดระลอก 1 จนตอนนี้ระลอก 3 กำลังเจ้าหน้าที่เท่าเดิมในขณะที่ผู้ป่วยโควิดมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ลงท้ายว่า "โคตรไม่ยุติธรรม" จนชาวเน็ตกระหน่ำแชร์โพสต์ว่อนโลกออนไลน์
ล่าสุด นายแพทย์บุญโฮม แก้วชนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำปลายมาศ โรงพยาบาลต้นสังกัดของพยาบาลที่เป็นลมและพยาบาลผู้โพสต์ ได้ออกมายอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริงพร้อมเล่ารายละเอียดของเหตุการณ์ และยืนยันว่าได้ขอกำลังเสริมจากโรงพยาบาลใกล้เคียงแล้ว
พยาบาลสาวรายดังกล่าวโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า "ที่ตึกมีคนไข้ covid 14 PUI 2 พยาบาลขึ้นเวร 3 คน PN 2 ภาระงานรับใหม่ทุกวัน ทั้งตึกมีเจ้าหน้าที่ไม่ถึง 10 คน ขึ้นเวร 4-5เวรต่อกัน วันนี้มีเจ้าหน้าที่เป็นลมล้มหลังจากออกจากห้องคนไข้ที่ต้องเข้าไปทำหัตถการ ที่ใส่ชุดPPE เวลานาน เกือบชั่วโมง อัตรากำลังไม่เคยเพิ่ม อยู่มาตั้งแต่ระลอกแรกจนระลอก3 ก็ยังไม่เคยมีคนเปลี่ยน โคตรไม่ยุติธรรม"
ล่าสุดวันที่ 2 ก.ค. 2564 นายแพทย์บุญโฮม แก้วชนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำปลายมาศ โรงพยาบาลต้นสังกัดของพยาบาลที่เป็นลมและพยาบาลผู้โพสต์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น "ยอมรับว่าเป็นความจริง" ผู้ที่เป็นลมคือผู้ช่วยพยาบาลหญิงรายหนึ่ง ส่วนสาเหตุเนื่องจากโหมงานดูแลครอบครัวหนึ่งซึ่งประกอบด้วยแม่ ยาย หลาน รวม 3 คน ติดเชื้อโควิด-19 โดยยายกับหลานอยู่ด้วยกัน ส่วนแม่แยกออกคนละห้อง แต่จากการตรวจพบว่ายายมีความเข้มข้นออกซิเจนในเลือดต่ำ จึงต้องการแยกหลานออกจากยายให้ไปอยู่กับแม่
จากนั้นผู้ช่วยพยาบาลคนนั้น ซึ่งใส่ชุด PPE เดินเข้าไปเพื่อจะพาหลานไปหาแม่ เมื่อเด็กเห็นชุด PPE จึงเกิดความกลัว ไม่กล้ามาด้วย ผู้ช่วยพยาบาลคนดังกล่าว ใช้เวลากล่อมเด็กนานถึง 45 นาที เด็กจึงยอมไปหาแม่ เมื่องานสำเร็จคาดว่าน่าจะเกิดจากสวมชุด PPE นานเกินไป จึงเป็นลม
ในตอนท้ายนายแพทย์บุญโฮม กล่าวด้วยว่า "จริงๆแล้วเจ้าหน้าที่ชุดดูแลคนไข้โควิดมีเพียงพอ แต่ในช่วงหลัง มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจนทำให้เตียงคนไข้ ที่เตรียมไว้ 18 เตียงเต็มหมดแล้วและมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นอีก ตอนนี้ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อให้สมดุลกับคนไข้แล้ว แต่ในระยะอันใกล้คาดว่าจะมีคนป่วยเพิ่มขึ้นอีก จึงเตรียมขอกำลังเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.)เข้ามาช่วย ส่วนขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่ตอนนี้ยังดี พร้อมปฏิบัติหน้าที่สู้ต่อไป"