พ่อค้าต้นไม้หมดความเชื่อใจ ส่งกล้วยแดงอินโดทางไปรษณีย์ถึงปลายทางเหลือแต่ตะกร้า เสียหาย 3 หมื่น ชดใช้ 2 พัน

มีรายงาน นายธวัชชัย ตองอ่อน เจ้าของไอดินฟาร์ม จ.ขอนแก่น ได้ออกมาร้องเรียนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ หลังจากใช้บริการขนส่งของบริษัทไปรษณีย์ไทย ทำการส่งต้นกล้วยด่าง ซึ่งเป็นกล้วยแดงอินโด จาก อ.กระนวน ไปถึงลูกค้าที่ จ.สุโขทัย แต่เมื่อถึงปลายทางพบเพียงตะกร้าส่วนต้นกล้วยแดงอินโด ที่อยู่ภายในได้สูญหายไป มูลค่าความเสียหายรวม 30,000 บาท เจ้าของฟาร์มยืนยันว่าก่อนส่งตนได้บรรจุหีบห่อ และคลุมทับด้วยตะกร้าอีกชั้นอย่างแน่นหนา มีการชั่งน้ำหนักและตรวจสอบสินค้าอย่างครบถ้วน และถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน รวมทั้งมีการส่งสลิปการส่งจากต้นทางไปให้กับลูกค้าอย่างครบถ้วน

นายธวัชชัย เล่าว่า ตอนแรกตนได้รับการติดต่อจากลูกค้าในจ.สุโขทัยว่าต้องการซื้อกล้วยสายพันธุ์แดงอินโดกับทางฟาร์ม ซึ่งลูกค้าได้สั่งมาอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาใช้บริการส่งของไปรษณีย์ไทยทุกครั้ง แต่ครั้งล่าสุดเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา (30 มิ.ถ. 2564) มีลูกค้าสั่งต้นไม้ 3 ราย เป็นกล้วยด่างและกล้วยแดงอินโด ตนก็นำไปส่งและบรรจุหีบห่ออย่างดีและคลุมทับด้วยตะกร้าอย่างแน่นหนาครบถ้วน 3 รายการพร้อมถ่ายภาพต้นไม้และหีบห่อไว้เป็นหลักฐาน แต่หลังจากนั้นตนได้รับสายวิดีโอคอลจากลูกค้าจาก จ.สุโขทัย ที่สั่งกล้วยแดงอินโดราคา 30,000 บาท บอกว่าสินค้าที่ส่งไปนั้นมีแต่ตะกร้าภายในไม่มีต้นกล้วยแต่อย่างใด ตอนนั้นตนไม่เชื่อเพราะจำขั้นตอนการบรรจุห่อได้ เมื่อให้ลูกค้าถ่ายมาให้ดูตนพบว่าที่ตะกร้ามีร่องรอยการแกะและผูกเชือกใหม่อย่างชัดเจน 

ตอนนั้นตนได้บอกลูกค้าว่า "ตะกร้าและกล่องที่บรรจุต้นกล้วยไปนั้นถูกแกะ ทำให้ลูกค้าไม่รับสินค้าและส่งสินค้ากลับคืนมาที่ต้นทาง และเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 64 ผมได้รับตะกร้าคืนและกลับไปสอบถามที่ ไปรษณีย์ไทย เพื่อตรวจสอบก็พบว่าสิ่งของทั้ง 3 รายการที่ส่งจากต้นทางครบถ้วน แต่เมื่อถึงปลายทางพบว่าน้ำหนักเฉพาะที่ส่งไป จ.สุโขทัย หายไป 200 กรัม ซึ่งก็คือต้นกล้วยแดงอินโดของผม"

ด้านไปรษณีย์ต้นทางแจ้งว่างสิ่งของไปครบตามจำนวน ทั้ง 3 รายการและน้ำหนักครบถ้วน อาจจะหายไปช่วงของการกระจายสินค้า ตามศูนย์กระจายสินค้า ไม่รู้ว่าที่ขอนแก่น หรือสุโขทัย ตนก็ได้ทำเรื่องถึงทางบริษัทให้รับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น

ทว่าคำตอบที่ได้รับคือทางบริษัทบอกว่าสามารถชดใช้ได้เพียง 2,000 บาท ตามระเบียบที่ไปรษณีย์ไทยกำหนด ส่วนหีบห่อที่ส่งไปและชำรุดนั้นเสียหายแค่เพียงเล็กน้อย จะขอชดเชจตามค่าความเสียหาย แต่เมื่อตนทวงถามถึงกล้วยแดงอินโดราคา 30,000 บาทจะชดใช้อย่างไร เจ้าหน้าที่แจ้งกลับมาว่า"ให้ไปตรวจสอบเองว่าหายจุดใด ใครเอาไป" ซ้ำร้ายเมื่อไปแจ้งความที่ สภ.กระนวน ได้รับคำตอบว่า เหตุการณ์ไม่ได้เกิดขึ้นที่ อ.กระนวน ไม่สามารถรับแจ้งความได้ ต้องให้เจ้าหน้าที่ ไปรษณีย์ไทยตรวจสอบว่า หายที่ใด จุดใด อำเภอใด จึงจะสามารถเดินทางไปแจ้งความในพื้นที่ที่เกิดเหตุได้ ซึ่งจนถึงวันนี้ ทางไปรษณีย์ไทยก็ไม่ได้ให้ความช่วยเหลือหรือตรวจสอบใด ๆ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้นายธวัชชัยบอกว่าตนและกลุ่มผู้ค้าพันธุ์ไม้ เริ่มไม่มั่นใจในระบบการขนส่งของไปรษณีย์ไทยแล้ว เพราะที่ผ่านมามีกรณีสิ่งของชำรุดเสียหายและหายไปอย่างต่อเนื่อง และกลุ่มพันธุ์ไม้เหล่านี้มีราคาแพง ครั้งนี้ตนยอมแลก ขอออกมาพูดความจริงเพื่อให้ทางไปรษณีย์แสดงความรับผิดชอบ มิฉะนั้นจะดำเนินการตามกฎหมาย