นพ.ผู้เชี่ยวชาญเตือน ถ้ายังไม่ปูพรมฉีดวัคซีน "กันยายน" เป็นต้นไปยอดเสียชีวิตอาจพุ่งถึง 2800 คน

วันที่ 2 กรกฎาคม 2564 มีรายงานว่า นพ.คำนวณ อี้งชูศักดิ์ นายแพทย์ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญในด้านระบาดวิทยา ในฐานะที่ปรึกษาด้านวิชาการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศไทยในขณะนี้ ซึ่งจากข้อมูลด้านระบาดวิทยา คาดการณ์ว่า ในเดือนสิงหาคม และในเดือนกันยายน ก็อาจจะมียอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 2,000 คน 

 

โดยนายแพทย์คำนวณกล่าวว่า หากการระบาดหรือหากสถานการณ์ ยังมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างแพร่หลาย และยังไม่มีการปูพรมฉีดวัคซีนให้มีการครอบคลุมกับประชาชน ก็อาจจะทำให้มียอดผู้เสียชีวิตอาจสูงถึง 1400 คน ในเดือนสิงหาคม และในเดือนกันยายน ก็อาจจะมียอดผู้เสียชีวิตสูงถึง 2,000 คน ส่วนในเดือนถัดๆไปตัวเลขผู้เสียชีวิต ก็อาจเพิ่มสูงถึง 2,800 คน ก็เป็นได้  

มาตรการที่กำลังดำเนินอยู่ขณะนี้ คือ ยุทธศาสตร์เดิมที่เคยกำหนดเอาไว้ในการป้องกันควบคุมโรค"โควิด" คือการสร้างภูมิคุมกันหมู่ โดยการฉีด"วัคซีน"ให้ครบ และครอบคลุมกับประชากรให้ได้ถึง ร้อยละ 70 ของประเทศ

 

 

นายแพทย์คำนวณกล่าวต่อว่า ข้อมูลการศึกษาของหลายประเทศพบว่า จะสามารถควบคุมการระบาดได้ จำเป็นต้องสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ โดยการฉีดวัคซีนให้กับประชากรถึงร้อยละ 90 ของประชากร ซึ่งจะทำได้ภายใต้สภาวะการณ์ที่เรามีวัคซีนไม่จำกัด และมีขีดความสามารถในการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ทุกประเทศมีวัคซีนจำกัด จึงจำเป็นต้องพิจารณาแผนการฉีด วัคซีนที่ต้องแบ่งเป็นสองระยะในช่วงแรกจำเป็นต้องใช้วัคซีนกับกลุ่มที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิต ผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เพื่อลดการเจ็บหนักและการตาย  ในช่วงที่สองจึงจะเป็นการปูพรมฉีดวัคซีนให้ทุกกลุ่มครอบคลุมประชากร

ทั้งนี้ นพ.คำนวณ ได้เสนอให้รัฐบาล และ ศบค. ต้องพิจารณาและสรุปให้ชัดเจนว่า "วัคซีน" ที่มีอยู่อย่างจำกัดในตอนนี้ ควรจะเลือกฉีดกลุ่มไหนก่อนเพื่อลดการสูญเสีย