เจ้าอาวาสสุดแสบ ลักเก้าอี้วัดไปให้สาวคนสนิท เรื่องแดงโดนจับได้หนีไปพร้อมเงินบริจาค 3 ล้าน

กำลังเป็นที่สนใจและวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในสื่อสังคมออนไลน์ในขณะนี้ เมื่อชาวบ้านหนองนารี จ.ศรีสะเกษ ได้เชิญสื่อมวลชนไปที่วัดโพธิ์สว่าง เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินของวัด ซึ่งประกอบไปด้วย  เก้าอี้พลาสติก 10 ตัว ด้านหลังเก้าอี้มีอักษรระบุชื่อ "วัดโพธิ์สว่าง" ชัดเจน อีกทั้งยังมีเก้าอี้อีกหลายตัวมีร่องรอยถูกสีดำพ่นทับอักษรระบุชื่อวัด รวมถึงตรวจสอบฐานเหล็กตั้งพระพุทธรูปในศาลาการเปรียญ จำนวน 4 อัน และเต็นท์ของวัดอีกจำนวน 3 หลัง

 

โดยต้นตอเริ่มจาก ชาวบ้านเห็นว่า พระมหาจักรพงษ์ จักกธัมโม หรือ พระเก่ง อายุ 38 ปี เจ้าอาวาสวัดโพธิ์สว่าง นำสิ่งของดังกล่าวออกจากวัดไปใช้ที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งที่ อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ ซึ่งร้านแห่งนี้เป็นการทำธุรกิจร่วมกับสาวคนสนิท ทว่าเมื่อเรื่องแดง ทางคณะกรรมการวัดและชาวบ้านก็ติดตามไปเอาคืนมาเรียบร้อย และเรียกสื่อมวลชนมาทำข่าว ส่วนเจ้าอาวาสก็หายตัวจากวัดไปมากกว่า 1 เดือน พร้อมทั้งนำสมุดบัญชีเงินฝากกับเอกสารสำคัญของวัดติดตัวไปด้วย

ขณะเดียวกัน ชาวบ้านรายหนึ่ง เล่าว่า พระมหาจักรพงษ์ได้หายตัวออกจากวัดนานร่วมเดือน กระทั่งมีชาวบ้านที่ไปค้าขายในพื้นที่ อ.สำโรงทาบ จ.สุรินทร์ เห็นพระมหาจักรพงษ์สวมชุดฆราวาสที่ร้านคาราโอเกะ ไม่ได้ห่มผ้าเหลือง ด้วยความสงสัย จึงสอบถามจากเจ้าของที่ดินจนได้ความว่า พระมหาจักรพงษ์กับสาวคนสนิท ได้ร่วมหุ้นกับลูกสาวตัวเองเพื่อเปิดร้านคาราโอเกะ ดังนั้นจึงปล่อยเช่าที่โดยไม่คิดค่าเช่า

 

ต่อมา เหล่าชาวบ้านจึงตามไปนำทรัพย์สินต่างๆ ของวัดกลับคืนมา แต่ก็พบว่า ยังมีทรัพย์สินอีกมากมายที่ติดตามกลับคืนมาไม่ได้ คล้ายกับว่ามีการนำทรัพย์สินวัดไปใช้ที่ร้านอาหารอีก 2 แห่ง 

ซึ่งภายหลังญาติของพระมหาจักรพงษ์แจ้งให้ชาวบ้านทราบว่า จะนำหลักฐานต่างๆ มาแจ้งให้ชาวบ้านได้ทราบในวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ได้มาตามนัด

ด้าน ชาวบ้านอีกราย เล่าว่า อยากให้พระมหาจักรพงษ์ นำสมุดบัญชีธนาคารของวัดและเอกสารสิทธิ์ที่ดินของวัดมาคืนให้คณะกรรมการวัด และขอให้มาชี้แจงกับชาวบ้านว่า เงินผ้าป่า เงินกฐิน และเงินบริจาคต่างๆ ซึ่งได้มาตั้งแต่ปี 2560 รวม 3 ล้านบาท ได้เอาเงินไปเข้าบัญชีของวัดหรือไม่ และให้ชี้แจงว่ามีการใช้จ่ายอะไรไปบ้าง และตอนนี้วัดมีเงินเหลือเท่าไหร่ หากไม่มีการชี้แจง ก็จะแจ้งให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นอกจากนี้ พระบุญสูง จิตตธัมโม พระผู้ดูแลวัด ได้เปิดเผยว่า ทรัพย์สินที่ชาวบ้านไปเอามาคืนได้นั้น เป็นของวัดชัดเจน เพราะมีตัวอักษรติดแสดงความเป็นเจ้าของชัด แม้บางส่วนจะพ่นสีปิดเอาไว้ ส่วนพระมหาจักรพงษ์ ก็หายออกจากวัดไปนานแล้ว อาตมาภาพเป็นผู้ดูแลวัดชั่วคราว ส่วนทรัพย์สินภายในกุฏิพระมหาจักรพงษ์ ก็ยังคงมีอยู่ เป็นรูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ แต่ละองค์มีน้ำหนักมาก อาตมาภาพและพระอีกหลายรูปได้ช่วยกันยกขึ้นไปไว้บนกุฏิให้ หลังจากนี้เรื่องทั้งหมด เป็นเรื่องที่คณะกรรมการวัดกับชาวบ้านจะดำเนินการ

อย่างไรก็ตาม มีรายงานเพิ่มเติมว่าพระมหาจักรพงษ์ ผู้ที่ขโมยเก้าอี้วัดไป ได้ลาสิกขาไปแล้วและกำลังทำสวนยางอยู่ที่ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ

ขอบคุณภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้