รมว.ยุติธรรม พยายามนาทีสุดท้ายขอเจรจากับเจ้าหนี้ แต่ดันปิดบ้านหนีเงียบ

ถือเป็นมหากาพย์อยู่พักใหญ่ จากกรณีที่ 4 แม่เฒ่าชาวจ.สุโขทัย ที่ได้ร้องขอให้ช่วยเหลือ เนื่องจากหลานชายได้นำโฉลดที่ดินไปจำนองเพื่อจะได้ไปทำงานต่างประเทศ กระทั่งมาทราบยภายหลังว่าโดนหลอก ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือ แต่สุดท้ายดูท่าว่า แม่เฒ่า 4 พี่น้องจะไม่ได้บ้านหลังเก่าคืน

อ่านข่าว - แม่เฒ่า4พี่น้องร้องไห้ไม่หยุด หลังรู้ไม่มีโอกาสได้บ้านหลังเก่าคืน

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไที่บ้านของยายเฒ่า 4 พี่น้อง เพื่อไปให้กำลังใจ หลังทราบว่าคุณยายทั้ง 4 ต้องย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่ ที่ห่างจากบ้านเดิมประมาณ 7 กิโลเมตร

โดยบ้านหลังใหม่นั้น มีการประสานขอซื้อบ้านจากธนาคารออมสินและได้เข้าไปเก็บกวาดทำความสะอาดแล้วและได้ย้ายเข้าไปอยู่ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา

 

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ยังเปิดเผยอีกว่า คุณยายทั้ง 4 มีการเปิดบัญชีรับบริจาคทั้งหมด 2 บัญชี และมีการคำนวนค่าใช้จ่ายให้คุณยายทั้ง 4 โดยนำตัวเลข 1.5 ล้านบาท มาคำนวนเป็นค่าใช้จ่ายจนถึงอายุ 110 ปี ก็จะมีสิทธิได้ใช้เงินเดือนละ 1,200 บาท ต่อคน รวมกับเบี้ยยังชีพอีกเดือนละ 800 บาท จะตกคนละ 2,000 บาทต่อเดือน

 

ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ บอกอีกว่า ต้องขอบคุณผู้มีจิตศรัทธาที่เข้ามาช้วยเหลือคุณยาย และขอฝากให้เรื่องนี้เป็นบทเรียนว่าสังคมต้องมีการศึกษาที่เข้มแข็ง การที่ไม่เรียนหนังสือและไม่เข้าใจในเรื่องการกู้ยืมเงินการคำนวนดอกเบี้ยไม่เป็นซึ่งสร้างความเสียหายตามมาและยากที่จะแก้ไข

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เดินทางไปยังบ้านหลังใหม่ของ 4 คุณยายที่ ต.ปากน้ำ อ.สวรรคโลก ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวมี 3 ห้องนอน กว้างขวางบนเนื้อที่เกือบ 2 งานพร้อมให้คุณยายทั้ง 4 ได้เข้าอยู่

เช้าวันที่ 3 กรกฎาคม 2564ที่ผ่านมายังได้มีการทำบุญเลี้ยงพระ ซึ่ง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ก็ได้เดินทางมาร่วมทำบุญพร้อมกับคุณยายทั้ง 4 ด้วย รายงานข่าวระบุเพิ่มเติมว่า นายสมศักดิ์ พยายามจะไปพบเจ้าหนี้ เพื่อขอคำตอบเป็นครั้งสุดท้ายว่าขอให้ขายบ้านคืน แต่ทางเจ้าหนี้กลับปิดบ้าน ไม่ยอมให้เข้าพบ และติดต่อไม่ได้

ขอบคุณภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้