- 06 ก.ค. 2564
"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ทรงพระราชทานช่วยเหลือผู้ประสบภัย ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว รับผู้เสียชีวิตไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์
สืบเนื่องจากกรณีที่เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว 21 หมู่ 15 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หรือ บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด อีกชื่อที่เรียกกันติดปากคือ โรงงานหมิงตี้เคมีคอล ซึ่งเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 6 ก.ค. 64 ที่ผ่านมานั้นยังคงมีการปะทุขึ้นอีกระลอก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้พยายามอย่างเต็มกำลังเพื่อที่จะควบคุมสถานการณ์ให้ได้โดยเร็วและสามารถควบคุมได้ แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังเรื่องของควันพิษที่สารเคมีภายในยังคงหลงเหลืออยู่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สถานการณ์ยังตึงเครียด! คืบหน้าเหตุระเบิดโรงงานกิ่งแก้ว 21 จนท.เร่งอพยพ - ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บจ้าละหวั่น
- ด่วน! ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว 21 อันตรายยังคุมเพลิงไม่ได้ นายอำเภอบางพลีประกาศฉุกเฉิน หวั่นระเบิดซ้ำอีกระลอก
- เปิดโพสต์สุดท้าย น้องพอส วีรบุรุษดับเพลิง ดับสลดเหตุไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว
- ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้วยังหนัก รพ.จุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต งดให้บริการชั่วคราว
ล่าสุด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย หรือ ปภ. รายงานว่า เมื่อคืนวันที่ 5 ก.ค. 64 มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ นำถุงยังชีพสิ่งของเครื่องใช้ พระราชทานจาก "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" ไปให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นกับประชาชนผู้ประสบภัยที่ได้รับความเดือดร้อนกรณีไฟไหม้โรงงานย่านกิ่งแก้ว โดยทรงดำรัสสั่งเร่งช่วยเหลือ มีดังนี้
- ตั้งโรงครัวพระราชทาน
- ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับศพผู้เสียชีวิตไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ และสงเคราะห์งานศพผู้เสียชีวิต
- พระราชทานถุงยังชีพพระราชทาน อาหาร น้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่ม เครื่องนอน ในเบื้องต้น เป็นการเร่งด่วน
การเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันดังกล่าว ซึ่งในคืนวันที่ 5 ก.ค. 2564 ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่นำสิ่งของพระราชทาน พร้อมหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ ไปให้ความช่วยเหลือที่ศูนย์อพยพราษฎร พื้นที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า บริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด มีผู้บริหารเป็นชาวจีนทั้งหมด ได้แก่…
1. นายจื้อกว๋อ อู๋
2. นายอี้ โซว ลี่
3. นายเจิ้น-เหวย หง
4. นายฉง-ห่าง หง
ทั้งนี้ บริษัทเริ่มดำเนินกิจการตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2532 มีทุนจดทะเบียน 70 ล้านบาท ซึ่งผลประกอบการปีล่าสุด คือปีงบประมาณ 2563 มีรายได้รวม 1,202,795,860.31 บาท กำไรสุทธิ 25,734,588.11 บาท และมีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 699,095,810 บาท