- 10 ก.ค. 2564
ภูเก็ตระส่ำ ยอดติดเชื้อโควิดภวันเดียวพุ่ง10รายเป็นสถิติ หลังเปิด"ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์" พบผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์อินเดียเเล้ว
เมื่อวันที่9 ก.ค.6 ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการติดตามและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว จังหวัดภูเก็ต นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานการประชุมคณะกรรมควบคุมโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ครั้งที่ 41/2564
โดยมีว่าที่ ร.ต.วิกรม จากที่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายเรวัต อารีรอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต, พ.ต.อ.เสริมพันธ์ ศิริคง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ของจังหวัดภูเก็ต และการพิจารณาเพื่อออกมาตรการต่าง ๆ ในการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19
นายแพทย์กู้ศักดิ์ กู้เกียรติกูล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ได้รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ของจังหวัดภูเก็ต ว่า ล่าสุดมีผู้ป่วยรายใหม่ที่ได้รับการยืนยันแล้ว ในวันที่ 9 ก.ค.64 จำนวน 10 ราย โดยเป็นตัวเลขผู้ป่วยที่สูงสุดในรอบหลายวันที่ผ่านมา ซึ่งมีตัวเลขหลักเดียว แต่วันนี้ตัวเลขผู้ป่วยก้าวขึ้นไปอยู่ที่เลข 2 หลัก เป็นครั้งแรกหลังเปิดโครงการ ภูเก็ตเก็ตแซนด์บ็อกซ์ จึงทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตยังไม่น่าไว้วางใจมากนัก เนื่องจากขณะนี้พบผู้ป่วยรายใหม่ที่อยู่นอก LQ หรือไม่อยู่ในระบบกักตัว และส่วนใหญ่จะเป็นคนไทยที่เดินทางมาจากพื้นที่อื่นส่วนผู้ใกล้ชิดกับผู้ป่วยก็มีการกักตัวทุกคนแล้ว
อย่างไรก็ตามนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต ยังกล่าวด้วยว่า ในส่วนของการเฝ้าระวังนั้น เนื่องจากปัจจุบันพบว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้า (อินเดีย) ในกรุงเทพมหานครฯ และปริมณฑลค่อนข้างสูง โดยเฉลี่ยสูงกว่า 32% เฉพาะกรุงเทพมหานครฯ เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 70%
และขณะนี้ในส่วนของจังหวัดภูเก็ต มีรายงานยืนยันผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้า (อินเดีย) แล้ว 1 คน ซึ่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมาแล้ว 5 วัน นอกจากนี้ยังพบผู้ป่วยติดเชื้อสายพันธุ์เบต้า (แอฟริกา) เพิ่มอีก 4 ราย จากเดิมมี 2 ราย โดยทั้งหมดเดินทางมาจาก 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในส่วนของผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดและมีความเสี่ยงสูงได้นำเข้าระบบกักตัวแล้วทั้งหมด ทั้งนี้จึงขอให้ประชาชนได้มีการป้องกันตามมาตรการที่ทางราชการกำหนดโดยเคร่งครัดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ในพื้นที่ต่อไป