- 12 ก.ค. 2564
อาลัยนักรบชุดขาว "หมอหนึ่ง" หมออนามัย รพสต.สวนหลวง ติดโควิดเสียชีวิต แม้ฉีดซิโนแวค 2 เข็มแล้ว
สถานการณ์โควิดเช้านี้ ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 สะสมของประเทศไทย ประจำวันที่ 12 กรกฎาคม 2564 ดังนี้ พบจํานวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ เพิ่มขึ้น 8,656 ราย แบ่งออกเป็นติดเชื้อใหม่ในประเทศ 8,583 ราย ติดเชื้อในเรือนจำ-ที่ต้องขัง 73 ราย มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 80 คน
ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมในช่วงการระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่เดือนเมษายน 2564 ตั้งแต่ 1 เมษายน - 12 กรกฎาคม 2564 มีจำนวน 316,164 ราย เสียชีวิตสะสม 2,697 นับว่าเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของคนทั้งประเทศ ที่สูญเสียไปทั้งบุคลากรทางการแพทย์ เราต้องสูญเสียไปอีกกี่ชีวิต เช่นเรื่องราวต่อไปนี้ที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งได้ออกมาเผยว่า
ข้าว...ทราบข่าวนี้สักสองวันแล้ว
แต่ยังไม่สามารถเขียนออกมาเป็นข่าวสารเพื่อสื่อให้คนเข้าใจสถานการณ์ได้ว่าสมุทรสาครมีอะไรที่มากกว่าความเงียบงัน...ของคนสมุทรสาคร
หมอหนึ่ง นายพิเชษฐ์ สหกิจ
หมออนามัย รพสต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน
จ.สมุทรสาคร เวลาปะทะคนไข้แรกๆ จะเป็นหมอโรงพยาบาลชุมชนตำบลเหล่านี้ พวกเขาและเธอต่างต้องรับมือคนเจ็บคนป่วยที่เข้ามารักษาใน รพ.ด่านแรกที่เจอโควิด...ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราเข้าใจผิดว่าเรามีด่านแรกที่เข้มแข็ง มี อสม. มีทุกอย่างดูแลโรคระบาดได้ในครั้งแรกๆ แต่ลืมไปว่า หมอหรือเจ้าหน้าที่เหล่านี้ก็พลาดและหมดแรงได้พอมาระลอก 3 มาเต็ม ๆ เราถึงมีข่าวว่าหมอ พยาบาล จนท.ติดกันเยอะ...ทุกคนกล้ำกลืน...แบบให้งานมาแต่ไม่ได้ติดอาวุธป้องกันให้พวกเขาทัพหน้าของไทย
หมอหนุ่มๆ หมอสาว ๆ ด่านหน้าเหล่านี้...หลายคนอายุน้อย โสดเป็นอนาคตของประเทศ อย่างหมอหนึ่ง ที่เป็นความหวังของครอบครัว. เป็นความภูมิใจของคนรอบข้างในสังคมได้พึ่งพา ดูแลคนไข้มากมากมาย เป็นเพื่อนเป็นน้องของคนที่รักเขา เขาก็รักคนเหล่านั้น
ขนาดน้องได้รับการฉีดซิโนแวดแล้วสองเข็มด้วยซ้ำแต่ป้องกันอะไรได้บ้างมั้ย ไม่เลย บางคนบอกข้าวว่าเหมือนฉีดน้ำเปล่ากันตาย. ที่ข้าวโมโหคือเพราะที่ผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองเราเป็นหมอยังออกมาเชียร์ หลายคนบอกว่าดีที่สุดของคนไทยสมควรได้รับการฉีด...ลองมาเป็นพวกเขาบ้างซิแล้วตายบ้างซิ
เสียดายอนาคตหมอหนึ่งในอนาคตเราอาจมี ผอ.รพ.สต.ที่ดีๆ หรือเปล่า?...สังคมไทยเรากว่าจะสร้างคนดีคนเก่งมาทำงานยากเย็นขนาดไหนใครรู้
ตอนแรกข้าวว่าจะไม่เขียนแบบนี้...เพราะข้าวไม่รู้จักน้อง แต่เห็นน้องจบมหาลัยเดียวกันก็อดไม่ได้...
เพราะยังไงคงไม่ใช่รายเดียวที่ถูกลืม ขนาดเผาศพญาติพ่อแม่พี่น้องยังไปเปิดดูหน้าก่อนตายไม่ได้เลยจะมีอีกสักกี่คนคะที่ต้องสูญเสียอีก จะตายคาบ้านอีกกี่ร้อยกี่พันกี่หมื่นคน...ตอนปีที่แล้วข้าวยังคิดว่า ประเทศอื่นๆ อย่างอเมริกา อังกฤษ ยุโรปเขาโชคร้ายนะศพกองเป็นหมื่นฝั่งรวมกัน น่าสงสารนะแต่เปล่าเลย เราคนไทยนี่ต่างหากที่ลำบากลำบนมากว่าเขามากมายหลายร้อยเท่าเพราะว่าผู้หลัก
ผู้ใหญ่เราอยู่บนปราสาทหอคอยงาช้าง
สองวันก่อนอ่านข่าวเป็ด เชิญยิ้มว่าพ่อแม่เขาตายหมดทั้งคู่ แม่ตายมิถุนายน พ่อตายต้นกรกฏาคมนี้เองเป็ดร้องไห้ยังกับเด็กๆ ใครจะดูแลพวกเราประชาชนคนไทยที่เดือดร้อนและคาดว่าจะเจ็บกันไปอีกนาน...เจ็บและไม่จบ. อาจรอวัคซีนกว่าจะได้ครบเมื่อไหร่ เราอยากเดินภายใต้ดวงอาทิตย์แบบไม่ใส่แมสบ้าง. นี่สองปีแล้ว เป็นปี ๆ แล้วที่ออกไปกินข้าวนอกบ้านไม่ได้..เหนื่อยนะช่วยตื่นจากฝันที่วาดไว้บ้าง มองสถานะความเป็นจริงของเราบ้าง?
พี่ครูข้าวในสถานะคนสมุทรสาครเหมือนกันและเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน แม้เราจะอยู่คนละคณะคนวงการการทำงานพี่ข้าวที่น่าจะแก่กว่ามาก ๆ คนนี้ก็ขอให้หมอหนึ่งสู่ภพภูมิที่ดีและสุขคติเถิดน้อง...
ปล.เคตดิตภาพจากเฟสบุชของหมอหนึ่ง ขอบคุณที่อ่านค่ะ ร่วมอาลัยกันนะคะ...ข้าวเป็นนักเขียนอยากให้ทุกคนตระหนักรู้ความน่ากลัวของโควิด 19. ดูแลตัวเองด้วยทุกคน
ขอบคุณที่มา : รติรัตน์ รถทอง