- 16 ก.ค. 2564
วันนี้ 15 กค 64 เมื่อเวลา 20.00 น. นายชัยฐไวฒ์ วิภพพุ่มเพชร อายุ 37ปี ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือไปทางเพจ"survive สายไหมต้องรอด"ให้ช่วยประสานหาโรงพยาบาลให้ผู้เป็นพ่อได้เข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วนเนื่องจากพ่อติดเชื้อโควิดลงปอด หายใจรวยริน จากนั้นนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ แอดมินเพจสายไหมต้องรอดและทีมงาน
วันนี้ 15 กค 64 เมื่อเวลา 20.00 น. นายชัยฐไวฒ์ วิภพพุ่มเพชร อายุ 37ปี ได้ติดต่อขอความช่วยเหลือไปทางเพจ"survive สายไหมต้องรอด"ให้ช่วยประสานหาโรงพยาบาลให้ผู้เป็นพ่อได้เข้ารับการรักษาอย่างเร่งด่วนเนื่องจากพ่อติดเชื้อโควิดลงปอด หายใจรวยริน จากนั้นนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ แอดมินเพจสายไหมต้องรอดและทีมงาน ได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านเลขที่ 17 หมู่ 13 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี พบมีคนอาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว 6 คนโดยทั้ง 6 คนติดเชื้อโควิด19 ทั้งหมด มีคุณลุงสันต์ทัศน วิภพพุ่มเพชร อายุ 55 ปี มีอาการหนักที่สุด นอนหายใจหอบอยู่บนเตียง ไม่สามารถลุกเดินไปไหนได้ ทีมงานจึงรีบวัดค่าอ๊อกซิเจนในเลือดปรากฎว่าลดเหลือเพียง 88(โดยคนปกติต้องมี 95-100) ทางทีมงานจึงรีบนำอ๊อกซิเจนใส่ให้ลุงสันต์ทัศนทันที หลักจากใส่อ๊อกซิเจนไม่นานลุงสันต์ทัศนก็วัดค่าอ๊อกซิเจนในตัวได้95 ถือว่าปกติ ส่วนคนที่เหลือในบ้านอาการยังทรงตัวอยู่
นายชัยฐไวฒ์ เล่าให้ฟังว่า ตนเองทำงานขับรถส่งของให้ทางคลังสินค้าห้างโลตัส และเมื่อวันที่ 5 ก.ค.64 ตนรู้สึกไม่ค่อยสบายมีอาการไอ ตัวร้อน ตนจึงหยุดพัก อยู่ที่บ้าน ซึ่งในบ้านตนพักอยู่พ่อ-แม่-ภรรยา-ลูก-น้องชาย-หลาน รวมทั้งหมด 7 คน ต่อมาคนในบ้านเริ่มมีอาการไอและมีไข้ ลิ้นไม่รับรส วันที่ 11 ตนจึงเดินทางไปตรวจหาเชื้อโควิด19ที่คลินิกย่านคลอง2 ลำลูกกา เพื่อให้แน่ใจว่าตนเองป่วยเป็นโควิด19 หรือไม่ ผลปรากฏว่าติดเชื้อโควิด19 จริงๆ ตนจึงพาครอบครัวที่อาศัยอยู่ภายในบ้านที่ 7 คนไปตรวจ สรุปว่าติดเชื้อไปทั้งหมด 6 คนรวมตนเองด้วย แต่ผู้เป็นแม่ของตนกับไม่ติดเชื้อแต่เพียงผู้เดียว แม่จึงย้ายออกไปกักตัวที่บ้านญาติ พอทราบว่าครอบครัวติดเชื้อ สมาชิกในครอบครัวพยายามติดต่อหน่วยงานต่างๆเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ทุกหน่วยงานก็ได้แต่ถามประวัติถามชื่อทุกคนที่ติดเชื้อแล้วก็บอกให้รอ ไม่มีหน่วยงานใดสักหน่วยงานที่จะเข้ามาให้คำแนะนำ ตนต้องใช้ยาที่มีรักษาตามอาการกันเอง จนมาวันนี้อาการของพ่อ(คุณลุงสันต์ทัศน)มีอาการหนักมาก หอบใจเหนื่อย ตนจึงตัดสินใจติดต่อตัวแทนเพจสายไหมต้องรอด เพื่อขอความช่วยเหลือ จากนั้นไม่กี่นาที ทีมงานเพจสายไหมต้องรอดก็นำอ๊อกซิเจนเข้ามาให้พ่อทันที ทำให้พ่ออาการดีขึ้น ตอนนี้อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูอาการของพ่อ และมารับพ่อไปรักษาก่อน ส่วนคนในครอบครัวที่เหลืออีก 5 คน ถ้าอาการไม่หนักก็ขอให้นำยามากินรักษาอยู่ที่บ้านก็ได้ ส่วนลูกวัย 9 ขวบกับหลานวัย 14 ปี ก็เป็นห่วงเหมือนกันเพราะอายุยังน้อยอยู่
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ (แอดมินเพจsurviveสายไหมต้องรอด) กล่าวว่า ได้รับแจ้งว่าเคสนี้มีผู้ป่วยโควิด19อยู่ภายในบ้านเดียวกันอยู่ 6 คน และมีอาการป่วยหนักอยู่ 1 คน ทางเราจึงประสาน อปพร.เขตสายไหมให้จัดทีมงานลงพื้นที่โดยด่วน เพื่อนำถังอ๊อกซิเจนที่มีผู้ใจบุญบริจาคมานำมาช่วยเหลือผู้ป่วยเคสนี้เบื้องต้นก่อน พอมาถึงบ้านผู้ป่วย ตนก็รีบให้เจ้าหน้าที่ตรวจวัดค่าอ๊อกซิเจนในเลือดของคุณลุงที่มีอาการหนักก่อน พบว่าอ๊อกซิเจนในเลือดต่ำกว่าค่าที่ควรจะเป็นอยู่มาก จึงรีบนำถังอ๊อกซิเจนลงจากรถไปใส่ให้ลุงทันที พอใส่อ๊อกซิเจนแล้วค่าอ๊อกซิเจนในเลือดก็กลับมาปกติ เราดีใจที่เราสามารถมาช่วยลุงได้ทันเวลา แต่เวลานี้ยังไม่รู้จะไปหาโรงพยาบาลไหนให้ลุงกับลูกหลานทั้ง 6 คนได้รักษา เพราะเตียงทุกที่ที่ตนประสานไปก็เต็มหมด ระหว่างนอนรอเตียงตนจะหายา ฟาวิพิราเวียร์ มาให้รับประทานก่อน
นายเอกภพ กล่าวเสริมอีกว่า ตนอยากเสนอนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง สาธารณสุข ให้นำยา”ฟาวิพิราเวียร์”ที่รักษาโรคโควิด19ได้ ออกมาแจกจ่ายตามสาธารณสุขต่างๆ ต้องกระจายยาออกมาให้ผู้ติดที่เชื้อนอนรอเตียงอยู่ที่บ้านทุกคนได้รับยาตัวนี้ ไม่ใช่ปล่อยให้ประชาชนนอนรอความตายอย่างผักปลา