- 16 ก.ค. 2564
นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการทุกจังหวัด โดยใจความสำคัญ ระบุว่า ขณะนี้ สภากาชาดไทย ได้สั่งจองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โมเดอร์นาจำนวนหนึ่งจากผู้แทน
นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทย ทำหนังสือด่วนที่สุดถึงผู้ว่าราชการทุกจังหวัด โดยใจความสำคัญ ระบุว่า ขณะนี้ สภากาชาดไทย ได้สั่งจองวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โมเดอร์นาจำนวนหนึ่งจากผู้แทน จำหน่ายในประเทศไทย ผ่านองค์การเภสัชกรรม เพื่อนำมาฉีดบริการให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มต่างๆโดยไม่คิดมูลค่า ตามพันธกิจของสภากาชาดไทย
ทั้งนี้ สภากาชาดไทยจะได้จัดสรรโควตาวัดชีนจำนวนหนึ่งให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เพื่อนำไปฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มต่างๆ ในพื้นที่ โดยมีเงื่อนไขสำคัญว่าต้องดำเนินการฉีดให้แก่ประชาชนโดยไม่คิดมูลค่า และแผนการฉีดวัคซีนดังกล่าวต้องได้รับอนุมัติจาก คณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัด และเงื่อนไขอื่นๆที่กำหนด จึงขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดได้แจ้งให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดในพื้นที่ที่มีความประสงค์จะซื้อวัคซีนไปฉีดบริการให้กับประชาชนตามเงื่อนไขดังกล่าว และแจ้งมายัง สภากาชาดไทย ภายในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้
สำหรับแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนสำหรับประชาชน ของสภากาชาดไทย โดยกำหนดเงื่อนไขดำเนินการ ดังนี้
1. องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ต้องจัดทำ "แผนการขอรับการจัดสรรวัคชีน" เพื่อนำ วัคซีนไปฉีดให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ตามที่สภากาชาดไทยกำหนด พร้อมจำนวนคนในแต่ละ
กลุ่มเป้าหมาย จำนวน 5 กลุ่ม ตามลำดับ ได้แก่
-คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง สตรีตั้งครรภ์ ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 มาก่อน
-ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไป ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 มาก่อน
-บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาล ในถิ่นทุรกันดาร
-ผู้ที่ทำงานประจำอยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครูผู้สอนในโรงเรียนอนุบาล หรือครู อาจารย์ ผู้ที่ทำหน้าที่สอนหนังสือในโรงเรียน ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 มาก่อน
-บุคลากรที่ต้องออกปฏิบัติงานสัมผัสประชาชน ตามโครงการฉีดวัคนขององค์การบริหาร
ส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่ยังไม่เคยได้รับวัคซีนโควิด-19 มาก่อน และบุคคลที่ยังไม่สามารถรับการฉีดวัคซีนได้ เนื่องจากติดขัดระเบียบหรือกฎหมาย
2.องค์การบริหารส่วนจังหวัด ต้องเสนอ "แผนการขอรับการจัดสรรวัคชีน" โดยต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัด
3.องค์การบริหารส่วนจังหวัด ที่เข้าร่วมโครงการกับสภากาชาดไทย ต้องสนับสนุนงบประมาณค่าวัคซีนโควิด-19 โมเดอร์นา ราคา 1,300 บาท/โดส ให้แก่สภากาชาดไทย เพื่อนำไปจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โมเดอร์นา มาให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)
สำหรับเงินค่าวัคซีน โดสละ 1,300 บาท นั้น เมื่อหักต้นทุนวัคซีนและค่าบริหารจัดการตามโครงการแล้วเงินส่วนที่เหลือจากค่าใช้จ่ายดังกล่าว จะได้นำเข้าสมทบใน "กองทุนสภากาชาดไทย เพื่อจัดหาวัคชีนโควิด-19 และยารักษาโรคโควิด-19 สำหรับประชาชน" ต่อไป นอกจากนี้ยังมีเงื่อนไขสำคัญ เช่น
*-อบจ. ต้องจัดบริการฉีดวัคนให้กับประชาชนกลุ่มเป้าหมาย โดยไม่คิดมูลค่าและห้ามนำไปจำหน่ายโดยเด็ดขาด
*-เมื่อสภากาชาดไทย แจ้งการจัดสรรโควต้า ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) แล้ว
ขอให้ชำระเงินเต็มตามจำนวนที่ได้รับอนุมัติจากสภากาขาดไทย ภายในวันที่ 23 กรกฎาคม 2564
ก่อนเวลา 12.00 น.
*-สภากาชาดไทยจะทยอยจัดสรวัคชีนได้ ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป
อย่างไรก็ตามมีหมายเหตุในช่วงท้าย ระบุว่า หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และหรือวิทยาการความก้าวหน้าของวัคซีนโควิด-19 เปลี่ยนแปลงไปสภากาชาดไทยจะพิจารณาเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ต่อไป