คืบหน้า อธิบดีกรมสรรพสามิตจ่อลงโทษสุงสุดถึงขั้นไล่ออก 6 จนท.ล่อซื้อน้ำส้ม!

วันที่ 16 กรกฎาคม 2564 มีรายงานความคืบหน้าคดีที่เป็นที่พูดถึงและประชาชนให้ความสนใจเป็นจำนวนมากเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา กับกรณีเจ้าหน้าที่สรรพสามิตล่อซื้อน้ำส้มจากเจ้าของร้านสเต็กจะนวน 500 ขวด จนโดนโทษสั่งเด้งจาก นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต

ล่าสุด นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เผยว่าเตรียมพิจารณาโทษสูงสุดถึงขั้นไล่ออก

 

 

เหตุเกิดขึ้นเมื่อเดินมิถุนายนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากเจ้าของร้านสเต็กรายหนึ่งโพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าถูกล่อซื้อน้ำส้ม 500 ขวดจากเจ้าหน้าที่สรรพสามิต โดยตอนแรกเจ้าหน้าที่ทักแชทมาหาขอสั่งน้ำส้มคั้นกับเธอ ก่อนจะแสร้งมานั่งรับประทานสเต็กที่ร้านและเดินดูว่าเธอมีน้ำอะไรจำหน่ายบ้าง จากนั้นจึงแสดงตัวเรียกเงินจากเธอไป 12,000 บาท

 

ต่อมาหลังเกิดเป็นคดี หนึ่งในเจ้าหน้าที่สรรพสามิตชุดล่อซื้อที่ได้เข้าไปล่อซื้อในวันดังกล่าวได้ออกมาสารภาพว่าทำการเช่นนั้นจริง แต่การขอปรับเงิน12,000 บาท นั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด แค่เข้าไปตักเตือน

 

 

โดยในตอนนั้น นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต  ได้ออกมาเปิดเผยว่าเบื้องต้นได้สั่งย้ายเจ้าหน้าที่ 3 คนที่ปรากฏเป็นข่าว ซึ่งได้สั่งให้ออกนอกพื้นที่เกิดเหตุในกรุงเทพฯแล้ว นอกจากนี้ยังมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นการด่วน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส และให้ได้ข้อเท็จจริงเป็นที่กระจ่างแก่สังคม

 

ล่าสุดวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 นายลวรณ อธิบดีกรมสรรพสามิต ได้เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดหลังสอบสวนข้อเท็จจริงจากเจ้าหน้าที่สรรพสามิต 6 คนที่ไปล่อซื้อน้ำส้ม 500 ขวด โดยจากการสอบสวนพบว่า "มีเหตุเชื่อได้ว่ากระทำความผิดจริง"

กรมสรรพสามิต ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย เพื่อพิจารณาบทลงโทษเจ้าหน้าที่ทั้ง 6 คนแล้ว โดยมีโทษต่างระดับกันไปตั้งแต่ตักเตือน ให้ออก หรือ ปลดออกจากราชการ และขั้นสูงสุด คือการไล่ออก ซึ่งต้องพิจารณาความผิดเป็นรายบุคคลไป ซึ่งเป็นไปตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน พร้อมยืนยันกรมสรรพสามิตให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแน่นอน