หมอด่านหน้าตัดพ้อ สุดท้อ ทำงานหนักแต่เงินไม่ออก ค่ารถได้แค่หลักหน่วย

หมอด่านหน้าตัดพ้อ สุดท้อ ทำงานหนักแต่เงินไม่ออก ค่ารถได้แค่หลักหน่วย เบี้ยเลี้ยงเบิกไม่ได้ เผยผู้ป่วยหายแล้วไม่ยอมกลับบ้าน ส่งผลเตียงเต็ม

อย่างที่หลายคนทราบกันดีว่าตอนนี้ประเทศไทยรับมือกับโรคโควิด 19 ไม่ไหวแล้วจริงๆ เนื่องจากมียอดผู้ป่วยพุ่งสูงขึ้นทะลุหมื่นรายอย่างต่อเนื่อง เพราะยอดผู้ติดเชื้อโควิดล่าสุดในไทยพบว่ามีผู้ป่วยรายใหม่มากถึง 13,002 ราย เสียชีวิตอีก 108 ราย ทำให้มียอดป่วยสะสมอยู่ที่ 439,477 ราย และผู้เสียชีวิต 3,610 ราย (ข้อมูลวันที่ 21 ก.ค. 64)

ยอดโควิดวันนี้

ลาซาด้าแจกคูปองส่วนลด
 

ด้วยสถานการณ์ที่ตึงเครียด ทำให้เหล่าด่านหน้าต่างออกมาแชร์ประสบการณ์และความจริงที่คนไทยหลายคนกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ อย่างล่าสุด พล.อ.ท. อนุตตร จิตตินันทน์ ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยเองก็เป็นอีกหนึ่งเจ้าหน้าที่ด่านหน้าที่ขอออกมาเล่าเรื่องที่ทำเอาชาวเน็ตหลายคนสะเทือนใจอย่างมาก ซึ่งโพสต์นี้คุณหมอได้โพสต์เอาไว้เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคมที่ผ่านมานี้เอง

 

พล.อ.ท.อนุตตร ได้เริ่มเล่าว่า "ขอรายงานสายตรงของน้องหมอเมด ที่ไปช่วยงานโรงพยาบาลสนามบุษราคัม ต่อจากสัปดาห์ก่อนครับ ข้อมูล ณ วันที่ 19/07/2564 ยอดเตียงรวม 3,700 เตียง เท่าเดิม
- ICU 12 เตียง : ETT 8 เตียง, HFNC 4 เตียง
* จุดประสงค์เพื่อเอาไว้ดูแลเคสเพื่อรอ refer แต่การ refer ยากมา กลายมาเป็น refer ไม่ออกเลย
**มีการคุยกันเรื่องที่จะสร้าง ICU แยกออกมาอีกส่วน เพื่อให้ดูคนไข้ได้มากยิ่งขึ้น อาจต้องมีการแยกทีม ICU ออกมาต่างห่าง ส่วนตัวคิดว่ามันน่าจะดีกับผู้ป่วยถ้าทำได้จริง  แต่มันเป็นการเพิ่มอะไรไปเรื่อย โดยที่ทรัพยากรเท่าเดิม ไม่ได้ตระหนักถึงศักยภาพที่แท้จริงของทรัพยากร และบุคลากรเลย"

หมอด่านหน้า


ประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยได้อธิบายว่า HFNC 209 เตียง : ซึ่งมีจำนวน High Setting ที่มากขึ้น รวมทั้งมีการ advance care plan ในคนไข้ที่มีโรคประจำตัวเยอะ อายุเยอะ เพราะถ้า on ETT ไม่มีที่ refer ก็ดูแลไม่ไหวอยู่ดี ซึ่งที่เหลือ เป็น ผู้ป่วยสีเหลือง และสีเขียว (ไม่ทราบว่าอย่างละเท่าไหร่) ในขณะที่สถานที่ และ บุคลากรเฉพาะแพทย์ - ยังเหมือนเดิม

 

จากที่เคยเล่าให้อาจารย์ฟังเมื่อรอบที่แล้ว
1. เรื่องคนไข้เสียชีวิต : ปัจจุบันมีการคุยเรื่อว advance care plan ในคนไข้ที่ดูหนักเกินศักยภาพ แต่เมื่อเสียชีวิตก็ส่งตัวไปที่พระนั่งเกล้า เพื่อจัดการด้านหลังการเสียชีวิตที่พระนั่งเกล้าตามระบบ เข้าใจว่าจะได้ไม่ต้องมาสร้างระบบจัดการเรื่องหลังการเสียชีวิตที่นี่
2. ค่าตอบแทน : มีการประชุมในวันที่อาจารย์โพสต์ในเฟซบุ๊กคืนนั้น และมีประกาศแจ้งมาอีกประปราย ซึ่งสรุปได้ว่า

ผผู้ป่งยโควิด
 

- ยืนค่าเสี่ยงภัยได้ทุกเวร แต่ก็ยังให้คำตอบไม่ได้ว่าได้เมื่อไหร่
 - ค่า OT : ให้เบิกจากจำนวนเวรที่อยู่ทั้งหมด ที่อยู่เกินจากเวลาราชการ ซึ่งครั้งแรกแจ้งว่าได้ 750 บาท/8 ชม.แต่มีคนไปดูระเบียบมาว่าจริงๆ ต้องได้ 1,800 บาท/8 ชม. สุดท้ายจึงมาเปลี่ยนว่าให้ 1,800 บาท/8 ชม. ก็เลยคิดว่าในเมื่อระเบียบมีแต่แรก ทำไมต้องมาลดค่า OT เราในการแจ้งครั้งแรก 

- ค่าที่พัก / ค่าเดินทาง : ค่าที่พักเบิกได้ แต่สำหรับคนที่ไม่อยู่ที่พักที่จัดให้ จะให้เบิกค่าเดินทาง จากเดิมที่แจ้งที่กระทรวงว่าวันละ ไม่เกิน 600 บาทตามระเบียบ เป็นได้เท่าอัตรารถประจำทาง ค่าโดยสารเที่ยวละ 8 บาท (แม้ว่าบางทีเราออกเวรเที่ยงคืน ในยามที่ห้ามออกจากเคหะสถาน)


พล.อ.ท. อนุตตร จิตตินันทน์ได้เน้นตรงนี้เล้กน้อยว่า "อาจารย์ที่มาประชุมบอกว่าในรายละเอียดวันที่มีคนแจ้งที่กระทรวงอาจารย์ไม่ทราบ เพราะอาจารย์ไม่ได้ไปร่วมที่กระทรวงในวันนั้นครับ (แสดงให้เห็นอะไรบางอย่างครับ )" 


ก่อนที่จะอธิบายต่อว่า เบี้ยเลี้ยงเบิกไม่ได้ เพราะที่ รพ.บุษราคัม มีอาหาร เช้า-กลางวัน-เย็น วันไหนที่ไม่ได้อยู่เวรก็ให้นั่งรถมากินข้าวที่โรงพยาบาล (ระยะทาง 7.1 กม. ตาม google MAP)

ผูป่วยโควิด


3. ระยะเวลาการทำงาน : ทำงานที่นี่ต่อในเดือน สิงหาคม ส่วนหลังจากนั้นยังไม่ทราบ ต้องรอเบื้องบนสั่งการมา ยังไม่มีระบบการหมุนเวียนอายุรแพทย์กลุ่มอื่นมาช่วย ต้องรอคำสั่ง ทุกอย่างรอเสนอ และรอตอบรับ รอ รอ รอ รอ รอ รอ ซึ่งต้นสังกัดบางแห่งที่ผู้ป่วย และภาระงานหนักได้มีการท้วงติงเรื่องนี้แล้ว แต่ก็ยังยืนยันว่าพวกเราต้องอยู่ต่อ


สถานการณ์เช่นนี้ ทำให้เกิดปัญหาเพิ่มเติมคือ 
1. เคสหนักมากขึ้น จึงมีความต้องการเพิ่มอะไรไปเรื่อยๆ ตามความหนัก ซึ่งบุคลากรเท่าเดิม มีการคาดหวังให้ทีมพวกเราไปเติมเต็มในงานที่จะเพิ่มขึ้น และส่วนที่ขาด เช่น ทีม MERT ที่ต้องเข้าไปดูแลคนไข้ด้านในมีปัญหา ก็มีการถามว่าพวกเราจะทำอย่างไรดี ซึ่งส่วนตัวสุดท้ายคิดว่าเหมือนมีคนไข้เป็นตัวประกัน ถ้าคนไข้หนัก ทีม MERT ไม่มี แล้วอย่างไร คำตอบก็คือคนที่มีอยู่ ซึ่งจะใครถ้าไม่ใช่พวกเรา


2. ทีมแพทย์หมุนเวียนจากต่างจังหวัดมีช่องว่างในการหมุนเวียน ทำให้บางช่วงมีแค่พวกเราที่ทำงาน ครั้งละ 1-2 วัน / รอบ 2 สัปดาห์ ซึ่งวันนั้นๆ ทำให้พวกเราหนักเอาเรื่องเลย
3. ปัญหาคนไข้ที่ครบกำหนดกลับบ้านบางส่วนไม่ยอมกลับ โดยบอกว่ากลับไปแล้วจะให้ผมไปทำอะไร ไม่มีงาน ไม่มีกิน อันนี้เริ่มเจอมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายก็เกิดปัญหาเตียงเต็ม

โควิด-19


4. การทำงานด้วยระบบราชการ คือ ประชุมขอความเห็น นำไปเสนอข้างบน รอข้างบนตอบ เอามาเล่าให้ฟังว่าโอเคไหม แล้วก็นำกลับไปเสนอ ไปๆ มาๆ รอคนมีอำนาจ และมีอำนาจเหนืออำนาจอีกชั้นนึง 
5. ทีมงานบางคนที่มีความจำเป็นในด้านอื่นนอกจากการทำงาน ไม่ว่าจะครอบครัว หรือ ส่วนตัว เริ่มมีการหาลู่ทางในการลาออกจากราชการแบบจริงจังกันแล้วพอสมควรครับ มีการพูดถึงความไม่แน่นอนในการทำงานที่นี่ตลอดเวลาครับ


6. บางคนพูดว่าการทำงานไม่ได้ทำด้วยความสบายใจแล้ว มันคือการบังคับ บนคำว่า "ขอความร่วมมือ" เหมือนมีจรรยาบรรณ และสังคมมาเป็นกรอบที่พวกเราต้องทำๆ ไป ไม่ได้มีแผนการ


"สุดท้ายมีคนถามเรื่องวัคซีน คำตอบคือ เป็นเรื่องที่เกินกว่าจะนำมาพูดได้ในที่นี้อย่างที่เรารู้ๆ กัน น้องหมอเมดรายงานผ่านผม โดยตรง ซึ่งผมไม่ได้ตัดแต่งหรือเพิ่มเติมเนื้อหาอะไรทั้งสิ้น เพื่อให้ทราบถึงข้อเท็จจริงจากหน้างานโดยตรงครับ ขอส่งกำลังใจให้น้องๆ และบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนครับ ฝากผู้เกี่ยวข้องช่วยดูแลก่อนทุกคนจะหมดกำลังใจด้วย"

หมอด่านหน้า

หมอด่านหน้า

หมอด่านหน้า


ขอบคุณ Anutra Chittinandana


ลาซาด้าลดหนัก