- 21 ก.ค. 2564
สธ.แจงแล้ว กรณีครูสาวดับหลังฉีดวัคซีนสูตรผสม ลั่น พิสูจน์แล้ววัคซีน 2 ตัวนี้ปลอดภัย ต้องรอผลชันสูตรก่อนยังไม่ฟันธง โดยกรณีนี้เป็นรายแรกที่เสียชีวิต คิดเป็นอัตรา 1 ในแสนของผู้ฉีดวัคซีน
จากกรณีเกิดเหตุครูสาววัย 39 ปีเสียชีวิตในบ้านพักแห่งหนึ่งในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยผู้เสียชีวิตเป็นครูสอนพิเศษและเป็นเจ้าของโรงเรียนกวดวิชา ซึ่งหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจึงรีบนำกำลังเข้าตรวจสอบ เบื้องตนสามีคาดว่าเป็นเพราะภรรยาไปฉีดวัคซีนสูตรผสม ล่าสุด นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรคได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้น ย้ำว่าวัคซีนทั้ง 2 ชนิดได้รับการพิสูจน์แล้วว่าปลอดภัย กรณีที่เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนสูตรผสมนี้เป็นรายแรก นับเป็น 1 ในแสน
โดยสามีของผู้เสียชีวิตเผยว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ที่ผ่านมา ตนเองและภรรยา ไปรับบริการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เข็ม 2 ที่ รพ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังจากที่เคยฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มแรกมาก่อนหน้านี้ และหลังจากกลับมามีอาการข้างเคียงปวดหัวตัวร้อนหนาวสั่นเล็กน้อย ทางโรงพยาบาลแนะนำให้กินยาพาราพวกตนก็ทำตาม
ถัดมาในช่วงเช้าอีกวันตนเริ่มมีอาการปวดหัว แต่ลงมาทำงานดูแลลูกสาวสองคนที่ชั้นล่างขณะที่ภรรยาขอนอนพักผ่อนบนห้องนอนเพียงลำพัง พอตกเย็นภรรยาเริ่มมีอาการหนักขึ้น อาเจียนมาก ตนเองขึ้นไปดูช่วงเวลา 19.00 น. ก็พบว่าภรรยาเสียชีวิตแล้ว ลำตัวเริ่มแข็งและมีสีเขียวคล้ำ จึงรีบโทรแจ้งโรงพยาบาลให้มาตรวจสอบ ระหว่างนั้นตนเองพยายามปั๊มหัวใจแต่ก็ไม่เป็นผล
สามีของผู้เสียชีวิตเผยว่าอยากเรียกร้องให้แพทย์ผ่าชันสูตรเพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนว่าเกิดจากวัคซีนสูตรผสมหรือไม่ ก่อนฉีดวัคซีนแพทย์ยืนยันว่าไม่มีผลต่อร่างกาย จึงมั่นใจที่จะฉีดวัคซีนแม้ภรรยาจะมีโรคประจำตัวเป็นความดันต้องกินยาควบคู่กันอยู่ แต่เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เริ่มไม่วางใจระบบสาธารณสุขไทย
ล่าสุดวันที่ 21 กรกฎาคม 2564 มีรายงานนพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรคชี้แจงกรณีพบครูสาวรายดังกล่าวที่เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนโควิดสลับชนิดในเข็มที่ 2 โดยนพ.โสภณ กล่าวว่าผู้เสียชีวิตรายนี้มีโรคความดันโลหิตสูง มีประวัติฉีด 2 ครั้ง ครั้งแรกฉีดโคโรนาแวคหรือซิโนแวค วันที่ 28 มิ.ย. และเข็มสองแอสตราเซนเนกา วันที่ 19 ก.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยคำแนะนำคณะผู้เชี่ยวชาญพิจารณาข้อมูลผลการศึกษาระดับภูมิคุ้มกันที่ให้ฉีดวัคซีนชนิดเชื้อตายและตามด้วยชนิดไวรัล เวคเตอร์ ห่างกัน 3 สัปดาห์
ซึ่งจนถึงขณะนี้ฉีดสลับชนิดแล้วมากกว่า 8.4 หมื่นคน แต่กรณีนี้เป็นรายแรกที่เสียชีวิต คิดเป็นอัตรา 1 ในแสนของผู้ฉีดวัคซีน ยังต้องหาสาเหตุต่อไป โดยแพทย์ตรวจเบื้องต้นและชันสูตรที่ รพ.พระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี คาดผลการตรวจออกมาเร็ววันนี้
นพ.โสภณกล่าวว่า "ขณะนี้ยังไม่สรุปว่ามีความเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่ แต่เพื่อให้เกิดความชัดเจน จะนำข้อมูลที่ตรวจสอบแล้วและมีข้อมูลเพียงมานำเสนอ แต่ที่จะสรุปคือ วัคซีนทั้ง 2 ตัวที่ฉีดในประเทศไทย เป็นวัคซีนที่พิสูจน์แล้วว่ามีความปลอดภัยสูงจากการที่ฉีดมากกว่า 10 กว่าล้านโดส เพียงแต่รายนี้เป็นการฉีดสลับชนิดและเกิดเหตุการณ์เสียชีวิต ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวอีกครั้ง ส่วนผลการสรุปจะมีการเรียนให้ทราบต่อไป"