- 22 ก.ค. 2564
ตำรวจและแท็กซี่อาสาฯน้ำใจงาม ช่วยเหลือกันพาชายเร่ร่อน นอนหมดสติหายใจรวยรินริมถนน ส่ง รพ.ตำรวจ เบื้องต้นยังไม่ทราบว่าติดโควิด หรือไม่
ที่เกิดเหตุบริเวณฟุตบาธหน้าร้านข้าวต้มเจ๊เล็ก-เจ๊หมวย พบชายไทยอายุประมาณ 35-40 ปี สภาพนอนหายใจรวยริน ดวงตากระพริบไม่สามารถพูดจาสื่อสารได้ แต่งกายสวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำ กางเกงขายาวสีดำ สวมหน้ากากอนามัย ไม่สวมรองเท้า ข้างกายพบกล่องข้าวและขวดน้ำเปล่า โดยทาง ส.ต.ท.เฉลิมชัย ได้พยายามประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อมารับร่างชายคนดังกล่าวส่ง รพ. แต่ไม่มีหน่วยงานใดมารับในช่วงเวลาดังกล่าวได้
กระทั่งเวลา 21.21 น. มีชายขับแท็กซี่ทราบชื่อนายเก้า และเป็นอาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ได้ขับรถแท็กซี่ โตโยต้า อัลติส สีส้ม ทะเบียน ทท 9670 กรุงเทพมหานคร ผ่านมาพบ จึงอาสานำตัวชายคนดังกล่าวไป โดยมี ส.ต.ท.เฉลิมชัย ได้ทำหนังสือส่งตัวจาก สน.ห้วยขวาง เพื่อนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ
ระหว่างนั้นนายเก้า เจ้าหน้าที่อาสาของมูลนิธิร่วมกตัญญูได้นำชุด ppe มาสวมใส่และทำการปิดกั้นช่องระหว่างส่วนคนขับและผู้โดยสารด้านหลังเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคก่อนนำผ้าพลาสติกมาห่อตัวชายคนดังกล่าวขึ้นส่วนที่นั่งผู้โดยสารด้านหลัง โดยส.ต.ท.เฉลิมชัยและ ส.ต.อ.ศักดิ์นรินทร์ได้ขี่รถจยย.สายตรวจ นำรถแท็กซี่ลำเลียงผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลตำรวจ ถึงมือของทีมแพทย์ทำการรักษาทันที
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามกับนายเก้า เจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู ทราบชื่อต่อมาว่า นายเก้าหน้า ขำภักดิ์ อายุ 34 ปี โชเฟอร์เเท็กซี่พลเมืองดี เปิดเผยว่า ขณะนั้นกำลังขับรถแท็กซี่จากแยกห้วยขวางมุ่งหน้าประชาอุทิศ ได้ยินวิทยุของมูลนิธิร่วมกตัญญูขออาสาสมัครตรวจสอบผู้ป่วยยังจุดเกิดเหตุ ตนจึงรีบเดินทางไปยังที่เกิดเหตุพบผู้ป่วยนอนหายใจเหนื่อยหอบ ไม่สามารถพูดจาตอบคำถามได้ ทราบจากประชาชนที่ขายอาหารบริเวณดังกล่าวว่า ชายคนดังกล่าวเป็นคนเร่ร่อน โดยไม่ได้มาขอข้าวกิน 3 วัน 3 คืนแล้ว อาศัยนอนที่ลานจอดรถภายในซอยประชาสงเคราะห์ 41 กระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมามีคนนำร่างของชายคนดังกล่าวมายังบริเวณจุดเกิดเหตุตั้งแต่เช้าและนอนอยู่อย่างนั้นตลอดทั้งวัน
นายเก้าหน้ากล่าวว่า โดยขณะที่กำลังหาทางช่วยเหลือนั้น หน่วยกู้ชีพเอราวัณได้เข้ามาตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุทำการประสานโรงพยาบาลปลายทางแต่ไม่สามารถรับรักษาผู้ป่วยได้ ตนจึงอาสานำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลให้โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทำหนังสือส่งตัวจาก สน.ห้วยขวางประกอบเป็นหลักฐาน โดยทางเจ้าหน้าที่เอราวัณได้นำชุด ppe ถุงเท้าคลุม สวมแมส 2 ชั้นและเฟซชิลด์ เอี๊ยมสีฟ้าคลุมอีกชั้นหนึ่งให้กับตนและจัดการปิดกั้นบริเวณช่องระหว่างผู้โดยสารและคนขับ
เพื่อนำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลตำรวจ ขณะนั้นผู้ป่วยยังคงมีชีพจรและลืมตาได้ส่วนผู้ป่วยจะติดโรคโควิด-19 หรือไม่ ยังไม่ทราบ แต่ถึงอย่างไรก็ตามจะต้องใช้ความระมัดระวังสูงสุด หลังจากการนำส่งตัวผู้ป่วยเรียบร้อยแล้วตนได้ทำความสะอาดฆ่าเชื้อภายในรถอย่างดี เหตุที่พร้อมให้การช่วยเหลือผู้ป่วยรายนี้เพราะตนเองไม่อยากเห็นสภาพคนตายอยู่ริมถนนอย่างเมื่อวานที่ผ่านมาอีกแล้ว เมื่อประสบเหตุจึงพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลทันที