กองทัพไทย โต้กลับไม่เคยทอดทิ้งผู้ป่วยโควิดระหว่างทาง แจงทั้ง 3 คนขอลงรถเอง

รองโฆษกกองทัพไทย ชี้แจงดราม่ารถทหารทิ้ง 3 ผู้ป่วยโควิดกลางทาง ยืนยันไม่เคยทิ้งใคร แต่ผู้ป่วยขอลงจากรถเอง ตอนนี้ทั้ง 3 ราย ได้เข้ารับการรักษาที่รพ.บุษราคัม เรียบร้อยแล้ว

จากกรณีที่โลกออนไลน์ได้มีการแชร์เรื่องราวของ ผู้ป่วยโควิด 3 ราย มารักษาตัวที่ รพ.สนามแห่งหนึ่งไม่ทัน ทางโรงพยาบาลจึงแจ้งว่าให้กลับไปนอนบ้านก่อน 1 คืน แล้วค่อยกลับมาใหม่ ก่อนเจ้าหน้าที่จะพาขึ้นรถทหารบอกจะไปส่งที่บ้าน แต่สุดท้ายเจ้าหน้าที่บอกว่าบ้านไกล ปล่อยให้ผู้ป่วยทั้ง 3 คนลงรถบริเวณหน้าวัดไผ่เงิน ห่างจากบ้านไปประมาณ 2 กิโลเมตร จากนั้นรถทหารก็กลับรถแล้วขับออกไปทันที ปล่อยให้ผู้ป่วยนั่งอยู่ริมถนนหน้าวัด

 

กองทัพไทย

 

ลาซาด้า

 

ล่าสุดวันที่ 27 ก.ค.64 พลตรี ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา รองโฆษกกองทัพไทย ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ทราบว่าเมื่อวันที่ 26 ก.ค. นายสราวุฒิ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ป่วยโควิด-19 ได้เดินทางเข้ารักษาตัวภายหลังทราบว่าติดเชื้อ ณ โรงพยาบาลสนามบุษราคัม ต่อมาทราบว่ารายชื่อของผู้ป่วยยังไม่ปรากฏในระบบการเข้ารับการรักษา ดังนั้นแพทย์โรงพยาบาลสนามบุษราคัม จึงได้พูดคุยกับผู้ป่วยถึงแนวทางการปฏิบัติตน ในเบื้องต้นและแนะนำให้ผู้ป่วยกลับที่พักอาศัยก่อน และในวันรุ่งขึ้นให้กลับมาเข้าระบบการรักษาต่อไป

 

กองทัพไทย


ทั้งนี้ ได้มีการประสานศูนย์สนับสนุนการเคลื่อนย้ายผู้ติดเชื้อโควิด-19 ศปม. ในการอำนวยความสะดวกนำส่งผู้ป่วยกลับที่พักอาศัย ซึ่งในระหว่างเดินทางกลับ พลขับได้มีการโทรติดต่อกับผู้ป่วยเป็นระยะ เมื่อถึงบริเวณหน้าวัดไผ่ ผู้ป่วยขอลงเจ้าหน้าที่จึงได้ส่งผู้ป่วย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินทางกลับมายังโรงพยาบาลสนามบุษราคัม เพื่อทำความสะอาดรถ เตรียมความพร้อมในการรับ-ส่งผู้ป่วยรายใหม่ต่อไป

กองทัพไทย ได้สอบถามไปตัวผู้ป่วยซึ่งได้ยืนยันว่า รถของเจ้าหน้าที่ที่นำส่งไม่ได้ทิ้งผู้ป่วยทั้ง 3 คน แต่รถเลยทางเลี้ยวเข้าบ้านพัก ด้วยความเกรงใจและคิดว่าไม่ไกลนัก จึงขอให้ทหารส่งลงที่หน้าร้านสะดวกซื้อ แต่เมื่อมาดูระยะทางแล้วน่าจะเดินไม่ไหว และไม่กล้านั่งแท็กซี่ กลัวคนขับแท็กซี่ติดเชื้อโควิด-19 จึงได้โทรประสานให้คนมาช่วย พร้อมทั้งยังแสดงความเสียใจที่ทำให้เกิดข่าวดังกล่าว อีกทั้งยังขอบคุณกองทัพและบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้ดูแล โดยในวันนี้ทั้ง 3 คน ได้รับการรักษา ณ โรงพยาบาลบุษราคัมเรียบร้อยแล้ว และขอยืนยันว่าข่าวสารที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้นั้น ไม่เป็นความจริงแต่ประการใด

 

กองทัพไทย

 

ลาซาด้า