- 02 ส.ค. 2564
หมอแอร์ โพสต์จากใจหมออาสา ปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้ Home isolation แต่ยาไปถึงไม่ทัน "ยาเรามีเยอะมาก แต่ไม่ได้เอาออกมาใช้ เพราะให้ไม่ทัน ระบบการกระจายยาของรัฐทำช้าไป"
นายแพทย์อกนิษฐ์ ศรีสุขวัฒนา หรือ หมอแอร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ ซึ่งเป็นหมออาสาในการทำ Home Isolation โพสต์ถึงปัญหาการให้ผู้ป่วยโควิด-19 รักษาตัวที่บ้าน แต่ปัญหาที่แก้ไม่ได้คือยากระจายไปถึงช้า ชี้ ยาเรามีเยอะ แต่ระบบกระจายยาของรัฐทำช้าไป เข้าถึงยาก และมีช่องทางน้อย ทำงานแล้วอึดอัด ยังไปได้ไม่สุด
จากหมออาสา ทำ Home isolation คนนึง ปัญหา ที่ยังแก้ไม่ได้ คนไข้อีกจำนวนมาก ยังไม่ได้รับยา Home isolation แต่ยาไปไม่ถึงทัน
รัฐใช้การ Home isolation เข้ามาแก้ไขระบบเตียงไม่พอ แต่เรายังทำได้ไม่ดีพอ ที่จะให้คนไข้ได้รับยาได้ทัน เราเฝ้าติดตามอาการคนไข้ หลายคนดีขึ้น หลายคนหาย แต่มีอีกหลายคน จากสีเขียว เป็นสีเหลือง และเป็นสีแดงและเสียชีวิต ทุกคนอยากได้ยาเร็ว หมอก็อยากให้ยาถึงเร็ว แต่มันไปไม่ถึงเพราะระบบ เพราะกำลังพล เพราะปริมาณคนไข้ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เราส่งยาให้ถึงได้ไม่ทัน
เฉพาะคลินิคที่ผมอาสา คนไข้เข้าระบบ 2 หมื่น คน หมอ ประมาณ 1 พันคน ช่วยกัน call แต่ด้วยประมาณคนไข้ กับระบบ ที่ใหม่ ทำให้ปริมาณยาค้างที่ต้องส่งเยอะ จนทำให้ คลินิค ต้องลดปริมาณคนไข้เข้าระบบ ลงแต่ เคสผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวัน แล้ว เคสใหม่เหล่านั้น จะไปลงที่ไหน ? ทุกอย่างกลายเป็นระบบจิตอาสา แม้แต่ Rider ยังต้องควักเงินออกค่าน้ำมันเอง ไม่มีเงินใดๆมาสนับสนุน ผมบอกได้เลยว่า ถ้าปริมาณคนไข้ติดเชื้อใหม่ ยังสูงขนาดนี้เราไม่มีทางใช้ ระบบ Home isolation กระจายให้ยาได้ทันท่วงทีแน่ คนไข้จะเสียชีวิตอีกเยอะมาก เพราะยาไปช้า
ยาเรามีเยอะมาก แต่ไม่ได้เอาออกมาใช้ เพราะให้ไม่ทัน ระบบการกระจายยาของรัฐทำช้าไป เข้าถึงยาก และมีช่องทางน้อย ทำงานแล้วมันอึดอัด ที่เรายังไปได้ไม่สุด ช่วยคนไข้ได้ไม่มากพอ ที่เราต้องการ ทางที่จะทำให้ ลดการตายได้มากที่สุด ต้องเปิดศูนย์รับยา หลายๆเขต ให้ ญาติคนไข้ สามารถรับยาแทนได้ ให้ผู้ป่วยได้รับยาและกินที่บ้าน และจัดระบบคิวการรับดีๆ ไม่ให้โกลาหล และประชาสัมพันธ์ให้ทราบ
ส่วนเคสที่ ไม่มีญาติ ต้องกักตัว ใช้การ โทร call แบบที่คลินิคทำ แล้วจัดระบบ ระดมกำลัง ให้ส่งยาได้ เกินวันละ 1000 เคสให้ได้ ทุกนาที ทุก ชม. ที่คนไข้ไม่ได้ยา เราจะมีคนเสียชีวิตมากขึ้น อยากให้คิดว่า ทุกนาทีที่เสียไป ที่คนไข้สีเหลืองไม่ได้ยาถึงจุดนึง จะย้อนกลับไม่ได้ เป็นจุดที่น่าเข้าไปสะกัดไม่ให้เคสแดง ล้น รพ. มากที่สุด
ถ้าขยับช้า แบบนี้ เราจะมีคนเสียชีวิตสูงขึ้นทุกวัน มีคนเสียชีวิตคาบ้านอีกมากมาย ฝากผู้มีอำนาจในการสั่งการ ต้องขยับอย่างเร็วแล้วครับ
ล่าสุดวันที่ 2 สิงหาคม 2564 หมอแอร์ได้โพสต์อีกครั้ง จาก Post Home Isolation เมื่อวาน เรื่องไปไกลมาก จากสื่อ จาก social network จนไปถึงผู้ใหญ่หลายภาคส่วน
ผมเชื่อเสมอ ว่าเสียงทุกคน มีพลัง ถ้าเราชี้ให้เห็นปัญหา ข้อเท็จจริง เหตุผล ความเร่งด่วน จะมีคนฟังเรา เห็นปัญหาเหมือนกัน และอยากแก้ปัญหาเหมือนกัน โดยไม่ได้เลือกฝ่าย เลือกข้าง
ก่อน post ผมนั่งคิดอยู่นาน เพราะ Post อาจมีผลกระทบ หลายอย่าง ทั้งในทางที่ดี และไม่ดีตามมาได้ มีพี่ท่านนึง บอกว่า ของบางอย่างมันรอไม่ได้ เราต้อง ททท คือ ทำทันที ถ้าไม่ทำ ก็ไม่มีคนทำ
เมื่อวานได้รับการติดต่อ มากมาย ทั้ง Line FB โทรศัพท์ เพื่อนๆ social จนผมตอบไม่หมด ได้รับการติดต่อกับผู้ใหญ่หลายท่าน ทราบว่า ทุกท่านไม่ได้นิ่งนอนใจ และเห็นปัญหาตรงกัน เรากำลังจะมีศูนย์ ตรวจ โควิด พร้อม รับยากลับบ้าน เราจะมีการ รักษาเชิงรุกมากขึ้น มากกว่า การทำ Home isolation อย่างเดียว ตอนนี้ บางที่ มีการเริ่มทำไปแล้ว และกำลังเร่งให้เปิดรับได้เร็วที่สุด และ บางที่กำลังเดินหน้าเช่นกัน เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่พลังสังคม ทำให้เกิดการเดินหน้า ขอบคุณพลังขับเคลื่อนของทุกคน
สิ่งที่สำคัญที่สุด ในภาพรวมตอนนี้คือ ทำให้มีคนไข้สีแดงเกิดขึ้นน้อยที่สุด คนไข้สีแดง มีโอกาสเสียชีวิต ถ้าไม่เสียชีวิต ต้องอยู่ รพ นานเป็น เดือน คนไข้ จะล้นรพ ไปเรื่อยๆ
ผู้ป่วยที่ "ใช่" ต้องได้รับยา "เร็วที่สุด " เพื่อไม่ให้เหลืองเป็นแดง ถ้าเป็นแดง ก็ให้เป็นแดงอ่อนๆ รักษาได้ ในขณะที่ไม่มีเตียง คำว่าใช่หมายถึง เป็นกลุ่มเสี่ยง เป็นกลุ่มสูงอายุ
เริ่มมีอาการทางปอด กลุ่มนี้เป็นแล้วโรครุนแรง เสียชีวิตได้ เร็วที่สุด เพราะ เมื่อมีอาการทางปอด ยิ่งให้ยาเร็วยิ่งดี ถ้าโรคดำเนินไปมาก ทิ้งระยะไปนาน การให้ยาประสิทธิภาพการรักษาจะลดลงกว่าเดิม แม้รักษาเต็มที่ ที่รพ.ก็อาจเสียชีวิต
ยาที่ใช้รักษา Covid ไม่ใช่ Favipiravir อย่างเดียว เอาจริงๆ ยาตัวนี้ ยังไม่มีข้อมูลชัดเจน ว่าลดการเสียชีวิตได้ แต่ เรารู้ว่า ความรุนแรงของโรค เกิดจากการอักเสบ ของร่างกาย ของปอด ที่มีต่อเชื้อไวรัส การให้ยาลดการอักเสบ กลุ่ม streroid จะช่วยลด อาการอักเสบ ของร่างกาย และของปอดได้ ลด อัตราการเสียชีวิต ลดความรุนแรงโรคได้ชัดเจนมากกว่า แต่ แพทย์คงลำบาก ที่จะให้ steroid อย่างเดียว โดยไม่ให้ยาต้านไวรัส ต้องให้คู่กันไป
ผู้ป่วยโควิด จะกินยากลุ่ม steroid ทุกคนไม่ได้ เพราะยามีผลข้างเคียง และผลเสียเยอะมากด้วย เช่น
- ทำให้น้ำตาลสูง โดยเฉพาะ ผู้ป่วยเบาหวาน น้ำตาลจะสูงขึ้นมาก จนเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
-steroid กดภูมิต้านทาน ทำให้ เกิดการติดเชื้อ แบคทีเรียขึ้นมาแทน
- ถ้าไม่ได้เป็น โควิด แล้วกิน หรือ ไม่เป็นโควิดแบบรุนแรงแล้วกิน จะเกิดผลเสียแทน
ประชาชนควรรู้ว่า steroid มีความจำเป็น และต้องใช้ในการรักษาในรายที่มีอาการทางปอด และไม่ต้องกินทุกคน
ถ้าเราระดมพลัง สร้าง จุดรับยาเพิ่ม มีระบบ Home isolation ที่รวดเร็ว ช่วยกันทำ อย่าต่างคนต่างทำ เดี๋ยวมันชนกัน มีคนมองภาพรวม เพื่อใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่า ทันเวลา
ทำให้ผู้ป่วยที่รู้ว่าติดเชื้อตั้งแต่วันแรก มีแพลน ในชีวิต ว่าต้องกินยาไหม กินยาอะไร ถ้าต้องกิน จะได้รับยาเมื่อไหร่ ทำให้ ผูัป่วยที่ใช่ ได้รับยาที่เร็ว ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นลง เราจะลดคนไข้สีแดงลงได้อีกมาก และสุดท้ายเราจะเริ่มเห็นผู้ป่วยเสียชีวิตลดลง ระยะยาว รพ. หน้าด่าน จะมีที่พอสำหรับผู้ป่วยหนัก