- 03 ส.ค. 2564
พ่อ ไวท์ ณวัชร์ พาภรรยาเข้าให้ปากคำตำรวจ สภ.บางกรวย เผยคู่กรณียังตามข่มขู่ในไอจีไม่เลิก อ้างมีคลิปพ่อไวท์ขับรถส่ายไปมาเลยต้องตามสั่งสอน ด้านผกก.สภ.บางกรวย เผยได้ออกหมายเรียกคนก่อเหตุให้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนก่อนวันที่ 10 ส.ค.นี้
วันนี้ (3 ส.ค.2564) นายณวัชร์ หรือ ไวท์ พุ่มโพธิงาม ดารานักแสดงหนุ่ม พร้อมด้วยนายสุรศักดิ์ พุ่มโพธิ์งาม อายุ 58 ปี บิดา และ น.ส.นฤมล อริยานุวัฒน์ อายุ 47 ปี มารดา ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย จ.นนทบุรี เพื่อเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมในคดีกับหนุ่มหัวร้อนขับรถเก๋งแคมรี่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายด้วยการตบหน้า น.ส.นฤมล อริยานุวัฒน์ มารดาของดาราหนุ่มขณะเข้าช่วยระงับเหตุการณ์ระหว่างที่กำลังมีปากเสียงและทำร้ายกัน
นายสุรศักดิ์ พ่อของ ไวท์ ณวัชร์ เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาหนุ่มคู่กรณีคนดังกล่าวยังเข้ามาคอมเม้นท์ในไอจีของลูกชายตนทำนองว่า “คิดว่าขับรถดีแล้วใช่ไหม เห็นขับรถเลาะไปมาแบบนี้ เลยอดใจไม่ได้ต้องตามไปสั่งสอน มีคลิปกล้องหน้ารถเป็นหลักฐานยืนยัน” ซึ่งเรื่องคลิปจากกล้องหน้ารถที่คู่กรณีอ้างว่ามีนั้น ตนเองก็ไม่รู้มาก่อนว่ามีจริงหรือไม่จริง ซึ่งถ้ามีจริงก็ให้เปิดเผยออกมาได้เลย จะได้รู้ว่าใครถูกใครผิดก็ว่ากันไป
ตนยอมรับระหว่างที่ขับรถปกติก็มีขับรถเลาะไปมาตามปกติอยู่แล้ว แต่พอมาถูกรถคู่กรณีไล่กวดก็ต้องพยายามขับหนีเหมือนกัน จึงอาจจะทำให้กล้องบันทึกหน้ารถเขาเห็นว่าตนขับขี่รถหวาดเสียวแต่ก็จะได้พิสูจน์เหมือนกันว่า เขาขับรถจี้ท้ายรถตนด้วยเช่นกันใช่ไหม ถ้ามีคลิปให้แสดงออกมาได้เลย ถ้าตนเป็นฝ่ายผิดก็พร้อมจะยอมรับ แต่จากพฤติกรรมที่เขาทำเหมือนเขาจงใจมาหาเรื่องมากกว่า โดยที่ตนก็ยังไม่รู้ว่ามีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่
นายณวัชร์ หรือ ไวท์ พุ่มโพธิงาม ดารานักแสดงหนุ่ม ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ โดยกล่าวกับเพียงสั้นๆ ว่า ในตอนนี้ยังไม่ได้เข้าแจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทใดๆ กับคู่กรณี เพราะต้องการดำเนินคดีในส่วนของพ่อกับแม่ให้เสร็จสิ้นก่อน ซึ่งทางทนายความจะช่วยตรวจสอบในเรื่องสำนวนคดีให้ ส่วนประเด็นที่ถูกคุกคามเพิ่มเติมให้เข้าไปดูที่ในไอจีของตน เรื่องคลิปหลักฐานที่กล่าวหาว่าพ่อตนขับรถเร็วนั้น ตนก็ยังไม่เห็น หากว่าพ่อของตนจะขับรถเร็ว เขาก็ไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายร่างกายพ่อกับแม่ตนแบบนี้
ด้าน พ.ต.อ.ศิวัช ศรีวิชัย ผกก.สภ.บางกรวย เปิดเผยว่า ตนได้เรียกพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีมาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่มีตำรวจโทรไปห้ามให้ผู้เสียหายไปออกสื่อหรือให้ข่าวแล้ว เป็นเหตุสื่อสารเข้าใจผิดพลาดกัน เนื่องจากพนักงานาอบสวนได้โทรไปแจ้งให้ผู้เสียหายมาเข้าให้ปากคำต่อหลังวันเกิดเหตุได้มาลงบันทึกประจำวันไว้ในเบื้องต้น เนื่องจากพนักงานสอบสวนต้องส่งตัวผู้เสียหายทั้งสองคนไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อนำผลตรวจมาใช้ในการประกอบสำนวนคดี จึงมีการโทรตามนัดหมายมาเข้าให้ปากคำสอบสวน ส่วนคำพูดที่อ้างว่าคู่กรณีเป็นลูกคนใหญ่คนโต ทางพนักงานสอบสวนยืนยันว่าไม่ได้พูดประโยคนี้ เป็นเพียงการโทรประสานให้มาเข้าให้การเท่านั้น
ผกก.บางกรวย เปิดเผยอีกว่า นับตั้งแต่เกิดคดีนี้ขึ้นมา ตนขอยืนยันเลยว่ายังไม่มีผู้หลักผู้ใหญ่คนใดติดต่อหรือขอให้ช่วยเหลือคดีเลย มีแต่ผู้บังคับบัญชาสอบถามความคืบหน้าคดีที่ต้องตนต้องทำรายการชี้แจงส่งเท่านั้น ซึ่งผู้บังคับบัญชาก็สั่งการให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาโดยให้ความเป็นธรรมกับทั้สองฝ่าย ซึ่งในวันนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการสอบปากคำให้ครบทุกประเด็น จึงยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใดๆ กับใครในตอนนี้ ขณะเดียวกันได้ออกหมายเรียกคู่กรณีที่ก่อเหตุให้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนก่อนวันที่ 10 ส.ค.นี้
รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับคู่กรณีของพ่อไวท์ เป็นบุตรชายของผู้พิพากษาคนหนึ่ง