- 09 ส.ค. 2564
ไผ่ ดาวดิน หรือ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา แกนนำกลุ่มทะลุฟ้า มอบตัวแสดงความบริสุทธิ์ คดีสาดสีสน.ทุ่งสองห้อง ยันเครื่องมือของรัฐบาลที่ล้มเหลวสมควรโดน
เดินทางมาตามนัดหมายแล้วเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ( 9 สิงหาคม 64) สำหรับ นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน แกนนำกลุ่มทะลุฟ้า พร้อมพวกพ้องรวม 4 คน เดินเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง หลังถูกออกหมายจับ กรณี ทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ปราศรัยและสาดสีใส่ป้าย สน.ทุ่งสองห้อง เมื่อวันที่ 3 สิงหาคมที่ผ่านมา
โดย ไผ่ ดาวดิน ได้กล่าวยืนยันในความบริสุทธิ์ เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายจับตามกระบวนการยุติธรรม และเห็นว่าการเคลื่อนไหวของประชาชนเป็นสิทธิเสรีภาพที่สามารถกระทำได้ ซึ่งส่วนตัว แกนนำกลุ่มทะลุฟ้า เห็นว่าการกระทำของตำรวจเกินกว่าเหตุ นอกจากนี้ นายจตุภัทร์ ยังย้ำจุดยืนในการเคลื่อนไหวเพื่อขับไล่รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์ โอชา นายกรัฐมนตรีต่อไป
นอกจากนี้ ไผ่ ดาวดิน ยังได้เปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอีกว่า เมื่อก่อนเชื่อว่าประชาชนมองพี่ๆ ตำรวจเป็นมิตร แต่ ณ ปัจจุบันการกระทำของเจ้าหน้าที่ทำให้ประชาชนรู้สึกว่า เป็นการขัดแย้งกับประชาชน ทั้งๆ ที่ผู้ขัดแย้งตัวจริงคือรัฐบาลที่ล้มเหลว ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่มีผุ้ติดเชื้อทะลุ 2 หมื่นราย เสียชีวิตทะลุ 200 ราย
"การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขัดขวาง ต่อต้านประชาชนที่ได้ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยและวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลชุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานั้น พี่ๆ ตำรวจเปรียบเสมือนเครื่องมือของรัฐบาล ดังนั้นจึงต้องโดนการกระทำเช่นนั้น เพราะทางเราแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนแล้วว่า เราต้องการขอแค่ให้ ประยุทธ์ออกไป"
ขณะเดียวกัน ทางมวลชนยืนยันขอรอทนายความมาถึงก่อนจะเข้าไปด้านใน สน. ซึ่งระหว่างนั้นทางผู้ชุมนุมพยายาม นำแผ่นผ้าเขียนข้อความโจมตีนายกรัฐมนตรี มาติดบริเวณรั้วลวดหนามด้านหน้า แต่ทางตำรวจได้ขอความร่วมมือไม่ให้ติด ก่อนจะไปยืนรวมกลุ่มกัน จนทางทนายความเดินทางมาถึง ทางนายจตุภัทร์ และพวก คนจึงยินยอมเดินทางไปด้านใน สน.พร้อมชู 3 นิ้ว ท่ามกลางเสียงตระโกนเป็นกำลังใจของมวลชน
สำหรับ ไผ่ ดาวดิน ถูกเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลายทำให้เสื่อมค่า หรือทำให้ ไร้ประโยชน์หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์, มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง, ร่วมกันชุมนุมทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรค ในพื้นที่ที่มีการประกาศหรือคำสั่งกำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่มีจำนวนมากกว่าห้าคน