หัวอกพ่อรับไม่ได้ ลูกชายดับปริศนา รพ.บอกสาเหตุไม่ได้ แถมแจ้งขอลดค่าชดเชย

สืบเนื่องจากกรณีที่คู่สามีภรรยารายหนึ่งได้โพสต์เฟซบุ๊กเพื่อตั้งคำถามไปยังโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่เธอได้ไปคลอดลูกชาย ก่อนที่ในเวลา 2 ชั่วโมงต่อมาสามีจะเดินมาหา พร้อมกับบอกข่าวร้ายกับเธอว่า ลูกชายคนแรกของทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว ทำให้เธอเสียใจมาก และยิ่งเสียใจหนัก เมื่อทางหมอไม่สามารถระบุได้ว่า ทารกน้อยเสียชีวิตเพราะอะไร

อ่านข่าว - หัวใจสลาย! พ่อแม่ทำใจไม่ได้ คลอดลูกได้ 2 ชั่วโมง หมอบอกทารกน้อยเสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ จบสิ้นความพยายาม 8 ปี
 

 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ นายปรีชา ศรีแสงจันทรา บี อายุ 40 ปี พ่อน้องเฟ่ยทารกน้อยผู้โชคร้าย และสามีน.ส.นฤดี ก็ยังได้เปิดใจเล่ารายละเอียดให้ฟังเพิ่มเติมอีกด้วยว่า หลังจากที่ได้รับข่าวร้าย ตนก็ได้สังเกตบริเวณหน้าอกของลูกชาย พบว่ามีร่องรอยของการถูกใช้เข็มแทงมากกว่า 6 เข็ม แต่ตนก็ไม่อาจทราบได้ว่า สาเหตุเกิดมาจากอะไรกันแน่ 

แต่ในเวลาต่อมาทางทีมหมอก็ได้มาอธิบายให้ตนได้ฟังว่า มีการพยายามปั๊มหัวใจลูกชายของตน ก่อนที่จะมีการฉีดยากระตุ้นหัวใจ มีการฉีดเข้าที่หน้าอกของทารก ซึ่งในฐานะคนเป็นพ่อก็สงสัยว่าทั้งที่อยู่บริเวณหน้าห้องแต่ทำไมเกิดสภาวะฉุกเฉินไม่ยอมแจ้งให้ตนเองทราบเลยแม้แต่นิดเดียว มีเพียงแค่ตนสังเกตเห็นว่าหลังจากที่ลูกของตนเข้าห้องในตู้อบไปไม่นาน ทีมแพทย์ก็เกิดความวุ่นวายขึ้น พร้อมทั้งปิดม่านกั้น
 

คุณพ่อน้องเฟ่ย ยังได้เล่าเหตุการณ์ต่อไปอีกว่า หลังจากที่ลูกชายของตนเองเสียชีวิต ร่างของลูกก็ได้ถูกนำส่งนิติเวชโรงพยาบาลรามาธิบดี ซึ่งเบื้องต้นทราบว่า  จะต้องมีการจัดเก็บร่าง การดองฟอร์มาลีนเอาไว้ 3 เดือน เพราะมีอวัยวะบางอย่างที่เบาะบาง ต้องมีการแช่ให้แข็ง ก่อนที่จะมีการชันสูตรตรวจสอบความบกพร่องของอวัยวะอื่น 
 

 

ทั้งนี้ก็เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงไปถึงสาเหตุการเสียชีวิตได้ แต่ผลการตรวจร่างกายเบื้องต้น 95% ยืนยันว่า น้องเฟ่ยค่อนข้างมีความสมบูรณ์ของอวัยวะ แต่พบเพียงแค่ว่า น้องมีความผิดปกติบริเวณปอด ซึ่งหมอได้บอกเบื้องต้นว่า น้องปอดรั่วหลายจุด ซึ่งการชันสูตรของนิติเวชบอกว่าเกิดจากการกระทำหรือช่วงที่มีการช่วยชีวิตจนกระทั่งทำให้ทารกเสียชีวิตในเวลาต่อมา

 

นอกจากนี้ คู่สามีภรรยายังบอกอีกว่า ทางด้านโรงพยาบาลได้แจ้งเบื้องต้นมายังเขาและภรรยาถึงการชดเชยค่าเสียหายว่า "ค่าชดเชยหรือค่าเยียวยาสภาพจิตใจสามารถลดราคาได้อีกหรือไม่ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะขอเป็นเคสกรณีศึกษาของทางโรงพยาบาล" แต่คำพูดดังกล่าวของโรงพยาบาลนั้น ทั้งคู่ยอมรับว่าไม่เป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากทั้งคู่ไม่ต้องการที่จะได้รับเงินค่าชดเชยเยียวยา แต่ต้องการได้รับคำตอบว่าสาเหตุการเสียชีวิตของลูกชายเกิดจากสาเหตุใดกันแน่