ขอความเป็นธรรม ตายายโดนหลอกขายที่ดินพร้อมตึกแถว เข้าอยู่ 2 ปี เป็นเรื่อง

เพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1 ขอเป็นสื่อกลางนำเสนอเรื่องราวคุณตาคุณยายร้องขอความเป็นธรรมหลังโดนหลอกขายที่ดินพร้อมตึกแถว เข้าอยู่มา 2 ปี จนลูกชายเอะใจลองตรวจสอบจึงพบว่าที่ที่ซื้อและอาศัยอยู่นั้นถูกกรมบังคับคดีอายัดไว้

 

 

ทุกข์ชาวบ้าน เล่าเรื่องจากหลังไมค์

ขอความยุติธรรมให้กับตายาย คลิปและเรื่องราวยาวหน่อย ขอเป็นสื่อกลางนำเสนอออกไป เพื่อการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาอย่างยุติธรรม

เรื่องราวเริ่มต้น
1. มีคนมาบอกขายห้องแถวพร้อมที่ดินของนายเต้ย ให้พ่อกับแม่ พ่อกับแม่ก็ไปเจรจาขอซื้อกับพ่อแม่ของนายเต้ยหรือนายคมกฤติ แล้วก็ตกลงขายให้กันพร้อมทั้งนัดกันจ่ายเงิน 

และในเวลาเดียวกันนั้นก็มีนางเนตร ชื่นบางบ้า ก็มาบอกขายเพิ่มให้อีกหนึ่งห้อง แล้วแม่กับพ่อก็ตกลงซื้อไว้อีกด้วยกัน โดยพ่อแม่นายเต้ยได้แจ้งว่าห้องของเค้านั้นยังไม่ได้ทำการโอนยังเป็นชื่อของนางเนตร ชื่นบางบ้า เลยใช้วิธีการทำสัญญาผ่านนางเนตรทั้งสองห้อง แล้วทางผู้ขายยังแจ้งอีกว่าตอนนี้โฉนดค้ำประกันเงินอยู่ที่กลุ่มออมทรัพย์ของหมู่บ้านแล้วกลุ่มออมทรัพย์ก็มีปัญหาในระบบจึงยังไม่สามารถเอาโฉนดออกมาโอนให้ได้เค้าเลยบอกว่าขอเวลาให้จัดการเรื่องออมทรัพย์ให้เสร็จ ทางพ่อกับแม่ก็เชื่อแล้วก็จ่ายเงินให้เขาทั้งหมด 580,000 บาทแล้วก็เข้าไปอยู่ในห้องแถวนั้นโดยการทำสัญญาจ่ายเงินวันนั้นทำที่บ้านผู้ใหญ่บ้านตามเอกสารแนบครับ (เอกสารในเม้นต์)

 

 

แล้วหลังจากนั้นเวลาก็ล่วงเลยผ่านไปสองปีจนคุณอุ๊กับผมกลับไปบ้านเกิดความสงสัยก็เลยขอพ่อกับแม่คุยเรื่องนี้ เห็นท่าไม่ดีก็เลยเข้าไปขอนัดคุยกับเขาเพื่อจะได้ดูรายละเอียดโดยการทำที่ว่าผมจะมาขอเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้แทนพ่อกับแม่ แล้ววันรุ่งขึ้นผมกับคุณอุ๊ก็เลยไปทำการตรวจสอบที่สำนักงานที่ดินจึงได้ทราบความว่าที่ที่เราจะซื้อและเข้าไปอยู่แล้วนั้นถูกกรมบังคับคดีอายัดไว้

 

แต่มาถึงตอนนี้เราก็ได้ทราบความต่อไปอีกว่าในหนังสือสัญญาที่ทำไว้ข้างต้นนั้นนางเนตร ชื่นบางบ้า ได้เอาโฉนดซึ่งเป็นของนายคมกริชมาลงระบุขายให้เราในสัญญา ตามเอกสารแนบด้านล่าง แล้วโฉนดของนายคมกริชฉบับนี้ก็ได้ทำการจำนองไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วตั้งแต่ก่อนวันทำสัญญาอีกเช่นกัน

แล้วหลังจากนั้นคุณอุ๊กับผมก็ได้พากันไปแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจภูธรตำบลชุมแสงสงครามอำเภอบางระกำจังหวัดพิษณุโลกไว้เป็นหลักฐาน แล้วหลังจากนั้นอีกไม่นานนายคมกริชก็มาแจ้งความนางชูศรี นาคบัว ซึ่งเป็นแม่ของผมในข้อหาแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาทตามเอกสารแนบด้านล่างครับ

 

 

แล้ววันนี้ผมก็พาแม่เดินทางไปพบร้อยเวรตามกำหนดเวลาก็ได้ไปพบกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งมี ร้อยเวรคนเดิมที่รับแจ้งความครั้งแรกแนะนำว่าเป็นทนายโรงพักช่วยให้คำปรึกษาเรื่องของคดีและพิมพ์สำนวนให้กับร้อยเวรก็ได้ทำการสอบแม่แต่แค่เขียนใส่กระดาษแต่ยังไม่ได้พิมพ์ข้อความและให้แม่ประทับลายนิ้วมือ แต่ลักษณะการสอบเหมือนกับทนายที่สอบในศาลโดยพยายามอ้างถึงนายเต้ยไม่ได้เกี่ยวข้องทั้งทั้งที่ผมก็สอบถามแย้งไปว่าแล้วชื่อนายเต้ยที่อยู่ในโฉนดซื้อขายเป็นชื่อชัดเจนอยู่จะบอกว่าไม่เกี่ยวข้องได้อย่างไรแต่ทางผู้หญิงคนนี้ก็ยังพยายามดึงดังคาดคันว่าอะไรเต้ยไม่เกี่ยวข้องจนทำให้แม่เกิดภาวะช็อกและเครียดในระหว่างการให้ปากคำแม่อาการหนักครับไม่ลุกเดินหรือพูดคุยเหมือนก่อนเกิดเหตุเลยครับ ขอความเป็นธรรมให้กับพ่อแม่ผมด้วยครับ

 

 

ขอบคุณ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1