เจ้ากรมแพทย์ทหารอากาศแจงสาเหตุรายชื่อรับวัคซีนซ้ำ ยันไม่ได้กั๊กให้วีไอพี

จากกรณีดราม่ารายชื่อจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ที่ถูกแชร์ส่งต่อกันเป็นจำนวนมากบนโลกออนไลน์ หลังตัวแทนบุคลากรด่านหน้าทางการแพทย์ รพ.ภูมิพล กว่า 10 คนออกมาร้องขอความช่วยเหลือจากนพ.ทศพร เนื่องจากพบพิรุธในรายชื่อผู้ได้รับวัคซีน มีทั้งชื่อซ้ำ ชื่อเป็นตัวเลข ชื่อนามสกุลเดียวกันแต่คำนำหน้าชื่อต่างกัน


 

นพ.ทศพร กล่าวว่า คนด่านหน้าของ รพ. มีความเคลือบแคลงสงสัยเรื่องการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ ตั้งแต่ได้รับวัคซีน มีการประกาศรายชื่อจัดสรรรอบแรก ระบุชัดว่า คนทำงานหน่วยไหนได้บ้าง แต่พอถึงเวลาที่ประกาศอีกครั้ง กลับมีรายชื่อเพิ่มขึ้นมา บางคนทำงานหน่วยงานอื่นที่ไม่ใช่ด่านหน้า บางคนเกษียณไปแล้วก็มี บางรายก็เป็นนักเรียนแพทย์ที่จบไปแล้ว

รวมถึงบุคลากรด่านหน้ารายหนึ่ง เปิดเผยว่า ตอนแรกมีการทำเกณฑ์อีกแบบหนึ่ง แต่สุดท้ายมีการตั้งเกณฑ์ใหม่จนพยาบาลด่านหน้าตัวจริงมีรายชื่อตกหล่น เช่น ต้องได้ซิโนแวค 2 เข็ม ถึงได้ฉีด เงื่อนไขอื่นคือตก พอไปถามผู้บังคับบัญชาก็ไม่ได้คำตอบว่าใครเป็นผู้จัดสรร ไม่รู้ต้องการกีดกันวัคซีนไปให้ใครหรือเปล่า

ล่าสุดมีรายงานว่า วันที่ 16 ส.ค.64 ที่รพ.ภูมิพลฯ พล.อ.ท.ธนวิตต สกุลแสงประภา เจ้ากรมแพทย์ทหารอากาศ แถลงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ยืนยันและขอให้ความมั่นใจกับบุคลากรด่านหน้าของรพ.ว่าภายในสัปดาห์นี้จะได้รับวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่สาม 100 % จากที่ได้รับการจัดสรรมาจากกรมควบคุมโรค 3,700 เข็ม เรามีบุคลากรอยู่ประมาณ 2,000 กว่าคน ส่วนวัคซีนที่เหลือจะนำไปฉีดให้กับบุคลากรด่านสองและด่านสามของโรงพยาบาลต่อไป

ส่วนประเด็นเรื่องรายชื่อที่เกิดความซ้ำซ้อน เพราะมาจากการใช้ระบบ Google ฟอร์ม ซึ่งบุคลากรที่ลงทะเบียนทำอาจจะไม่แน่ใจว่าใส่ชื่อตนเองไปแล้วหรือไม่ ทำให้ใส่เพิ่มไปอีก ในขณะเดียวกันหน่วยงานต้นสังกัดก็ส่งชื่อมาด้วยอีกทางหนึ่ง จึงทำให้เกิดรายชื่อซ้ำซ้อน แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องยึดตามเลขบัตรประชาชนเป็นหลัก ส่วนรายชื่อที่มีข้อสังเกตว่าทำไมมีคำขึ้นต้นด้วยนาย นาง และนางสาวนั้น ทั้งที่บุคลากรเหล่านั้นมียศเป็นทหาร ขอชี้แจงว่าเป็นการลงทะเบียนผ่านบัตรประชาชน จึงทำให้ไม่มียศนำหน้าชื่อ

นอกจากนี้ยังกล่าวด้วยว่า"เรื่องวัคซีนในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาต้องดูแลลูกน้อง หากลูกน้องยังไม่ได้รับ ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะนำวัคซีนตรงนี้ไปฉีดให้กับกลุ่มวีไอพี ถ้ามีคนไปทำแบบนั้นก็คงโง่เต็มทน และไม่มีเหตุผลที่เราจะต้องไปให้วัคซีนคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง และที่ผ่านมาก็ไม่มีผู้ใหญ่ในกองทัพอากาศโทรศัพท์มาขอวัคซีนไฟเซอร์แต่อย่างใด ปีนี้รพ.ภูมิพลฯ ครบรอบ 72 ปี เราทำงานเพื่อพ่อหลวงและประชาชนมายาวนาน 

แต่เมื่อมีเรื่องที่ไม่เข้าใจเผยแพร่ไปในโซเชียลฯ ทำให้ชื่อเสียงมัวหมอง ข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ใส่กันเต็มเหนียว ทำให้เราเสียใจ เพราะองค์กรของเราก็มีบุคลากรที่ดีทำงานให้กับองค์กร ผมไม่อยากให้โยงเป็นเรื่องวัคซีนทางการเมือง เพื่อไปกระทบกับรัฐบาล ซึ่งจากนี้ไปเราจะไปปรับปรุงเรื่องระบบและการสื่อสารภายในองค์กรของเราให้ดีขึ้น"