- 21 ส.ค. 2564
ผบ.ตร.สั่งปรับยุทธวิธี ย้ายตู้คอนเทนเนอร์ ห้ามจนท.เข้าใกล้ชุมชน แต่เน้นการรักษาพื้นที่บริเวณถนนเส้นหลัก ป้องกันไม่ให้มีการเผาทำลายทรัพย์สินของทางราชการและทรัพย์สินของประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ 21 ส.ค. 2564 ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หรือ ผบ.ตร. เผยได้สั่งการให้ปรับยุทธวิธีควบคุมสถานการณ์ชุมนุม กำชับไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติการภายในที่พักอาศัย ชุมชน หรือซอยเล็ก แต่เน้นการรักษาพื้นที่บริเวณถนนเส้นหลัก ป้องกันไม่ให้มีการเผาทำลายทรัพย์สินของทางราชการและทรัพย์สินของประชาชน หรือโจมตีเจ้าหน้าที่ รวมถึงยกเลิกการตั้งตู้คอนเทนเนอร์บริเวณถนนวิภาวดีรังสิตขาออก ใกล้สามเหลี่ยมดินแดงที่จะมุ่งหน้ากรมทหารราบที่ 1 เปิดให้ประชาชนใช้ถนนสัญจรได้ตามปกติ และยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ปกป้องบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่เป็นการปกป้องสถานที่ราชการ
พล.ต.อ.สุวัฒน์ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมติดตามสถานการณ์การชุมนุมที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลโดยระบุว่า วันนี้จะมีการปรับยุทธิวิธีให้กับเจ้าหน้าที่ในการเข้าระงับเหตุวุ่นวายที่เกิดเหตุในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณดินแดงและอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาปรากฎภาพเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้วยความรุนแรงจนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของประชาชน โดยเฉพาะคลิปเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนยิงประชิดใส่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ และ ยิงใส่ใต้แฟลตดินแดง จำนวน 2 เหตุการณ์ ได้สั่งการให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลไปตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด แต่ต้องพิจารณาถึงเหตุและผลเป็นเรื่องๆ ไป เพราะหลักยุทธวิธีสากลเป็นเพียงหลักเกณฑ์กว้างๆ ที่กำหนดขึ้นเท่านั้น ไม่มีบังคับตายตัว จึงต้องเรียกตำรวจนายดังกล่าวมาตรวจสอบเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถตอบคำถามของสังคมได้ ว่าเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงจริงหรือไม่
ทั้งนี้ขอให้เข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่อยู่ภายใต้แรงกดดันสูงมาก ต้องรักษาความสงบ และต้องบังคับใช้กฎหมาย เพราะสถานการณ์ในวันนี้ไม่ใช่การชุมนุมเหมือนเมื่อก่อน แต่เป็นการก่อความวุ่นวายและทำร้ายเจ้าหน้าที่ด้วยการใช้ระเบิดปิงปอง และหัวน็อต ซึ่งไม่รู้ว่าจะได้รับบาดเจ็บเมื่อไหร่ และผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ทำให้ตำรวจทำงานได้ยาก ก็ได้สั่งกำชับให้เจ้าหน้าที่ให้อดทนอดกลั้น แม้กลุ่มผู้ก่อเหตุจะเล่นนอกกติกาก่อความรุนแรงก็ตาม แต่ตำรวจต้องอดทนและปฏิบัติภายในกติกากฎหมายและยุทธวิธีสากล
ซึ่งเบื้องต้นตำรวจได้เข้าไปพูดคุยกับผู้ปกครองของเยาวชนเหล่านี้ เพื่อทำความเข้าใจและชี้แจงเหตุผลที่ตำรวจต้องดำเนินคดี พบว่าส่วนใหญ่เป็นเยาวชนที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่จุดเกิดเหตุ แต่มาจากจังหวัดรอบกรุงเทพมหานคร และตอนนี้มีการจับกุมแกนนำที่ชักชวนเยาวชนออกมารวมตัวก่อเหตุแล้วบางส่วน แต่รายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ก่อนที่ทางผู้สื่อข่าวถามว่าเหตุการณ์นี้จะจบลงเมื่อไหร่ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยืนยันว่า "ไม่มีหนังเรื่องไหนไม่จบ อยู่ที่ว่าจะเป็นหนังสั้นหรือหนังยาวเท่านั้นเอง"