- 25 ส.ค. 2564
ทนายตั้มดักคอ "หวังว่าจะไม่ชันสูตรทิพย์" เพราะร่างผู้ต้องหาถูกเผาแล้ว ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่ตำรวจมีอำนาจในการสั่งหรือชี้นำให้หมอเขียนสาเหตุการตายได้
จนทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ที่นำคลิปนาทีผู้กำกับโจ้และลูกน้องก่อเหตุออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน พร้อมแสดงความคิดเห็นถึงใบรับรองสาเหตุว่า "เสียชีวิตจากพิษแอมเฟตามีน ในหนังสือรับรองการเสียชีวิต เพื่อใช้เป็นสถิติ ทำทนายแบบผมไปไม่เป็นเลยครับ ถ้าไม่รู้สาเหตุ สันนิษฐานว่า หัวใจล้มเหลว ขาดอากาศหายใจอะไรก็ได้ แต่ไม่ใช่ชี้นำแบบนี้"
และได้โพสต์แถลงการณ์ของทางโรงพยาบาล ชี้แจงเรื่องใบรับรองที่ออกมาก่อนหน้า โดยทางโรงพยาบาลระบุจับใจความได้ว่า "แถลงการณ์จากโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ที่เป็นผู้ออกใบรับรองการตายคดีผู้ต้องหาถูกตำรวจก่อเหตุในนครสวรรค์ เนื้อความว่า ตำรวจแจ้งโรงพยาบาลว่า ผู้เสียชีวิตคดียาเสพติดและกำลังวิ่งหนีตำรวจอยู่ และวูบไปจนเสียชีวิต ก็เลยลงข้อสันนิษฐานแบบคร่าวๆว่า เสียชีวิตเพราะพิษแอมเฟตามีน และต้องรอการชันสูตรโดยละเอียดอีกที ถึงจะสรุปสาเหตุเสียชีวิตแท้จริงได้ได้"
ขณะที่ล่าสุดได้โพสต์ว่า มีคนส่งสตอรี่ในไอจีของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลท่านหนึ่งมาให้ เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลก็น่าเห็นใจ แต่ผมเห็นใจผู้ตายมากกว่า
โดยในสตอรี่ของเจ้าหน้าที่เขียนไว้ว่า "เคสนี้เป็นเคสที่มา admit ที่วอร์ดเวรบ่าย Refer จากโรงพยาบาลปากน้ำโพด้วย Post arrest ตำรวจนำส่งให้ข้อมูลว่าคนร้ายวิ่งหนีตำรวจแล้ววูบไป แต่สภาพที่มาคือ เลือดออก ในร่างกาย suction มีแต่ก้อนเลือด ยังคุยกันอยู่ว่าเหมือนโดนทำร้ายมา
dead เวรดึก ตรวจพบสารเสพติดในปัสสาวะ ถามอะไรตำรวจก็บอกไม่รู้ๆ พอคลิปมาแล้วสงสารคนไข้เลย
ทนายตั้มโพสต์ต่อในช่องคอมเมนต์ว่า "ก็ต้องย้อนกลับไปถามเชิงโครงสร้างนะครับ ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ที่ตำรวจมีอำนาจในการสั่งหรือชี้นำให้หมอเขียนสาเหตุการตายได้ และเท่าที่ทราบมา คือศพของผู้ตายได้ถูกเผาไปแล้ว พอเกิดข้อสงสัยทำไงต่อ หวังว่าจะไม่ชันสูตรทิพย์นะครับ"
ขอบคุณ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ