- 26 ส.ค. 2564
ไทย เตรียม ซื้อต่อ 2 วัคซีนจากยุโรป เดือนละ 2 - 3 ล้านโดส ในช่วงเวลา 4 เดือน
จากที่ไทยต้องรับมือกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ที่ระบาดอย่างหนักในประเทศ ซึ่งทางรอดเดียวที่จะชลอและลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคระบาดดังกล่าวได้ก็คือ การจัดหาวัคซีนที่ดีที่สุดมายับยั้งและลดอัตราการเสียชีวิต เนื่องจากจริงอยู่ที่ว่าวัคซีนไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อโควิดได้ แต่เป็นที่แน่นอนแล้วว่า วัคซีนโควิด สามารถลดอัตราการเสียชีวิตได้
เกี่ยวกับเรื่องนี้ล่าสุดมีรายงานจากเพจของ สรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวชื่อดังได้แจ้งข่าวสารว่า "ไทย เตรียม “ซื้อต่อ” วัคซีน แอสตราเซเนกา และไฟเซอร์ จากยุโรป เดือนละ 2-3 ล้านโดส ในช่วงเวลา 4 เดือนนับจากนี้ครับ มีมากไว้ดีกว่ามีไม่พอ อยากคิดฝันไปถึงขนาด กระตุ้นเข็ม 3 ให้คนฉีดซิโนแวค 2 เข็มได้เร็วกว่าแผนแล้ว!"
โดยในรายละเอียดระบุว่า นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงการจัดหาวัคซีนโควิด ว่า ขณะนี้ กระทรวงการต่างประเทศ พยายามช่วยจัดหาวัคซีนเข้ามาเพิ่มเติม โดยมีการเจรจากับประเทศในภาคพื้นยุโรป เรียกว่าเป็นการ Re-Sale คือ การขายต่อออกมา
เนื่องจากประเทศดังกล่าวอาจมีจำนวนวัคซีนที่พอใช้แล้ว หรือสั่งมาเป็นจำนวนมากเกินกว่าที่เขาจะใช้บริการในห้วงเวลานั้นๆ ก็จะจำหน่ายให้ประเทศไทยต่อไป ซึ่งมีอยู่ 2 ตัว คือ วัคซีนแอสตราเซนเนกา และวัคซีนไฟเซอร์
ทั้งนี้จะสามารถจำหน่ายให้ประเทศไทยได้ประมาณ 2-3 ล้านโดสต่อเดือน ในระยะเวลา 4 เดือน ทั้ง 2 ชนิด โดยกรมควบคุมโรคจะพิจารณาดำเนินการต่อเพื่อจัดซื้อวัคซีนเหล่านี้ต่อไป เพื่อสร้างเสริมทำให้วัคซีนเรามีพอ ตอนนี้จากการคำนวณวัคซีนในอีก 4 เดือนจากนี้ไป คือ ก.ย.-ธ.ค. ก็จะมีวัคซีนเข้ามาค่อนข้างจะเยอะ คงดำเนินการฉีดให้ประชาชนได้ไม่น้อยกว่า 100 ล้านโดสทั้งหมด และทำให้เรามีภูมิในระดับที่เราต้องการได้ต่อไป