- 27 ส.ค. 2564
เปิดวาร์ปผู้หมวดหญิงหน้าสวย ผู้ที่ถือโทรศัพท์ให้ผบ.ตร. ซึ่งชาวเน็ตยกให้เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการแถลงข่าวปิดคดี ผกก.โจ้
"ผู้กำกับโจ้" พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับ ถูกควบคุมตัวมาที่กองบังคับการปราบปรามฯเมื่อช่วงค่ำวันที่ 26 ส.ค.64 ที่ผ่านมา ก่อนที่ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. จะตั้งโต๊ะเเถลงข่าวปิดคดี ผกก.โจ้ จากนั้นได้มีการควบคุมตัว อดีตผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ ไปกองบินตำรวจ รามอินทรา กม.4 บินส่งตัวไปยัง พื้นที่สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อดำเนินคดีต่อไป
ซึ่งในงานเเถลงข่าวได้มีอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญคือตำรวจหญิงหน้าสวย ผู้ถือโทรศัพท์ให้ผบ.ตร. เพื่อให้ทาง ผกก.โจ้ โฟนอินเข้ามา คุกเข่าอยู่ข้างๆผบ.ตร.ตลอดการเเถลงข่าว เผยโฉมผ่านสื่อต่างๆไปทั่วประเทศ จนในโลกออนไลน์ต้องมีการเปิดวาร์ปผู้หมวดหญิง
พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยหลังเข้าสอบปากคำ พันตำรวจเอกธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ อดีตผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ผู้ต้องหาตามหมายจับที่เข้ามอบตัวกับตำรวจ พร้อมย้ำว่า ไม่ว่าตำรวจยศตำแหน่งหรือระดับใด กระทำผิด ก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย ไม่มีใครหนีการกระทำไปได้
โดยระหว่างแถลงข่าว พันตำรวจเอกธิติสรรค์ อ้างว่า เหตุการณ์ในคลิปถูกเผยแพร่ เป็นการกระทำที่ต้องการให้ผู้ต้องหา บอกแหล่งซุกซ่อนยาเสพติด แต่พลั้งมือทำผู้ต้องหาเสียชีวิต เนื่องจาก ไม่เคยกระทำลักษณะนี้มาก่อน แต่เห็นว่า ผู้ต้องหาเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ จึงต้องการรีดข้อมูลเท่านั้น พร้อมสาบาน ไม่เคยทุจริตเรื่องเงิน โดยเมื่อพบว่า ผู้ต้องหาสลบไป ก็ทำอะไรไม่ถูก แต่ตรวจชีพจรและหัวใจแล้วพบว่า เต้นอ่อน จึงรีบปั๊มหัวใจ และนำส่งโรงพยาบาล พร้อมปฏิเสธว่า ไม่เคยรีดเงิน2ล้าน หรือรีดทรัพย์ผู้ต้องหา นอกจากนี้ ยังยอมรับผิดแต่เพียงผู้เดียว เนื่องจาก ขณะเกิดเหตุลูกน้องพยายามห้ามปรามแล้ว ส่วนที่ใช้ถุงดำคลุมหน้าผู้ต้องหา6ชั้น เนื่องจาก ไม่ต้องการให้ผู้ต้องหาเห็นใบหน้าของตัวเองขณะลงมือ
ยืนยันว่า ไม่มีเจตนาลงมือใส่ผู้ต้องหาจนทำให้เสียชีวิต ส่วนในชั้นศาลจะพิจารณาอย่างไร ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม โดยขอให้การในชั้นศาล พร้อมขอโทษประชาชนที่มีภาพดังกล่าวหลุดรอดออกไป พร้อมย้ำตั้งใจทำงานไม่มีการเรียกรับผลประโยชน์ ไม่มีประเด็นเกี่ยวกับการตบทรัพย์ซ้อนจากทนายความ หลังมีกระแสข่าวเกี่ยวกับการเรียกเงินจำนวน 20 ล้านบาท จากผู้กำกับโจ้ เพื่อแลกกับการไม่ให้เผยแพร่คลิปวิดีโอดังกล่าว และทรัพย์สินต่าง ๆ ของตัวเอง ก็ยืนยันว่า มีเอกสารรับรองถูกต้อง