- 27 ส.ค. 2564
พระอานนท์ พระวัดภัทรสิทธาราม เดินทางมาให้กำลังใจ ผู้กำกับโจ้ หลังจากที่ติดตามข่าวมาตลอด เผย ประทับใจ เพราะผู้กำกับโจ้ เป็นลูกผู้ชาย และไม่เชื่อ ว่ามีการรีดไถเงิน เงิน 2 ล้าน
จากกรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ ให้ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 6 โดยขาดจากการปฏิบัติหน้าที่ทางตำแหน่งเดิม เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคในการตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังถูกกล่าวหาว่าใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาในคดียาเสพติดจนเสียชีวิต พร้อมกับเรียกเงินจำนวน 2 ล้านบาท
สืบเนื่องจากกรณีดังกล่าวนั้น ได้เกิดประเด็นฮือฮาขึ้นเมื่อ พระอานนท์ พระวัดภัทรสิทธาราม เดินทางที่ ตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ พร้อมกับอาหารจำนวนหนึ่ง โดยได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า วันนี้ตั้งใจเดินทางมาให้กำลังใจ ผู้กำกับโจ้ หลังจากที่ติดตามข่าวมาตลอด เผย ประทับใจ เพราะผู้กำกับโจ้ เป็นลูกผู้ชาย และไม่เชื่อ ว่ามีการรีดไถเงิน เงิน 2 ล้าน ส่วนการซ้อมผู้ต้องหาหรือเอาถุงไปคลุมหัวผู้ต้องหา มันอาจจะหนักมือไป เกิดความผิดพลาด จนถึงแก่ชีวิต
โดยเฉพาะผู้กำกับจะว่าไม่ดีก็ไม่ได้ดีเต็มร้อย หรือ ดีเต็มร้อย เพราะคนเราเกิดมาไม่มีใครดีทั้งหมดและไม่ได้ชั่วทั้งหมด ส่วนท่านจะรวยอย่างไรมันก็เป็นเรื่องของท่าน ที่พระอาจารย์มาเป็นกำลังใจให้ เพราะผู้กำกับกลับมามอบตัว และจากการที่ฟังสัมภาษณ์ ของ ผู้กำกับโจ้เมื่อวานนี้ ผู้กำกับโจ้บอกว่าอยากจะฆ่าตัวตาย แต่เมื่อผู้ใหญ่บอกให้ท่านกลับมามอบตัว ผู้กำกับก็กลับมามอบตัวสู้คดี และบอกว่าลูกน้องไม่ผิด ตัวเองผิดเพียงคนเดียว เพราะเป็นคนสั่งจะติดคุกตลอดชีวิตก็ยอม ทำให้รู้สึกว่า เจตนาจริงๆแล้วของผู้กำกับโจ้ไม่มีเจตนาจะให้ผู้ต้องหาตาย
การมาให้กำลังใจผู้ต้องหาวันนี้ จะเป็นการสวนกระแสหรือไม่ ไม่ได้สนใจ ที่มาให้กำลังใจ เพราะไม่อยากให้ผู้กำกับฆ่าตัวตาย ไม่อยากให้คิดมาก
การทรมานผู้ต้องหาไม่เห็นด้วย การทำผิดข้อกติกาก็ไม่เห็นด้วย แต่ในฐานะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ทำเพื่อประชาชนปราบปรามยาเสพติดปราบ ปรามอาชญากรรมมันเป็นหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ที่ต้องทำ อยากให้ผู้กำกับมีกำลังใจ ในฐานะที่เกิดมาเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ เกิดมาเป็นคนไทยเป็นลูกหลานไทยและทำหน้าที่เป็นตำรวจไทย ยังดีกว่าคนบางคน ที่โกงชาติบ้านเมืองประชาชน แล้วไม่ยอมรับผิด