นศ.หนุ่ม ตัดพ้อ โดนพ่อไล่ออกจากบ้าน หลังไปร่วมม็อบบ่อย ถูกกดดันเพราะเป็นลูกข้าราชการ

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 64 มีหนุ่มนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบายความอัดอั้นในใจ หลังถูกพ่อไล่ออกจากบ้านพักเพราะไปร่วมม็อบในเชียงใหม่หลายครั้ง ซึ่งเจ้าตัวยังยืนยันที่จะร่วมแสดงออกถึงจุดยืนของตนเอง แม้ว่าจะต้องออกจากบ้านพัก โดยได้มีการโพสต์ระบุว่า "ผมไปม็อบ ผมไม่ได้ไปฆ่าคนตายครับ หยุดคุกคามผม ผมมีสิทธิและเสรีภาพครับ" รวมถึงโพสต์ภาพเข้าร่วมชุมนุมในวันที่ 29 สิงหาคม พร้อมข้อความว่า ขอให้ทุกคนสู้ สู้จนกว่าจะมีประชาธิปไตย

ทั้งนี้ นักศึกษาหนุ่ม ได้เล่าว่า ระหว่างเรียนได้พักอาศัยในบ้านพักข้าราชการตามสิทธิของพ่อที่เป็นข้าราชการหน่วยงานแห่งหนึ่ง ส่วนพ่อไม่ได้อยู่ด้วยกันที่บ้านพัก แต่ไปอยู่กับภรรยาใหม่ ช่วงที่ผ่านมาตนเองจะไปร่วมกิจกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองเป็นประจำ เพราะต้องการแสดงจุดยืนทางการเมืองเหมือนกับคนอื่นๆ  

แต่ปรากฏว่าระยะหลังพ่อได้มาเตือนและห้ามไม่ให้ไปร่วมม็อบ โดยบอกว่าเป็นห่วง ซึ่งตนเองก็ยืนยันแล้วว่าไปร่วมชุมนุมอย่างสันติ กระทั่งมาทราบภายหลังว่าพ่อถูกหัวหน้างานกดดัน เพราะไม่พอใจที่ลูกหลานข้าราชการไปร่วมม็อบ ถึงขั้นที่หัวหน้างานของพ่อได้มาพูดคุยกับตนเอง มาสอบถามถึงเหตุที่ไปม็อบว่าไปทำอะไร แล้วได้อะไร ทั้งยังถามถึงครอบครัวญาติพี่น้องอย่างละเอียด ทำให้ตนเองเริ่มรู้สึกถูกคุกคามจากผู้ใหญ่  

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นไม่โกรธพ่อ เข้าใจว่าพ่อคงไม่สบายใจและรู้สึกกดดัน และยอมออกจากบ้านพักมาเพราะไม่อยากให้พ่อหนักใจ พยายามทำความเข้าใจ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นอยากสื่อสารกับหัวหน้างานของพ่อและสังคมว่า ลูกข้าราชการไปม็อบผิดตรงไหน เพราะเป็นเสรีภาพในการแสดงออก และการไปม็อบไม่ได้เลวร้าย เป็นการไปแสดงจุดยืนในฐานะประชาชนคนหนึ่ง อยากให้คนที่เป็นผู้ใหญ่ยอมรับความคิดเห็นที่แตกเห็นต่างมากกว่านี้