อัจฉริยะ - ทนายเดชา พาอดีตผู้ต้องขัง เปิดโปงส่วยเรือนจำ

เรียกได้ว่าประเด็นเรื่องการรีดไถ่เงินจากผู้ต้องหา เพื่อแลกกับอิสระภาพนั้น กำลังเป็นที่สนใจอย่างมาก และล่าสุด นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วยทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ จากเพจ ทนายคลายทุกข์ พาอดีตผู้ต้องขัง 3 คนไลฟ์สด แฉเปิดโปงขบวนการรีดไถเงินจ่ายส่วยเรือนจำ 

โดย อดีตผู้ต้องขังคนที่ 1 ถูกจับคดีครอบครองเพื่อจำหน่ายฯ ซึ่งโดนเรียกเงินเพื่อเลือกแดนซื้อความสบาย ราคาอยู่ที่ 15,000 - 20,000 บาทขึ้นไป ซึ่งแต่ละแดนจะมีความสะดวก สบายต่างกันและต้องซื้อทุกอย่างแม้แต่ล็อกเกอร์ , เวลามีอาการเจ็บป่วย ก็ต้องจ่ายเงินเพื่อรักษาอาการป่วย ทั้งๆ ที่ทุกเรือนจำจะมีงบดูแลผู้ต้องขังป่วย , การกิน การนอนบางแดน อดีตผู้ต้องขังบอกว่า สกปรกมาก บางทีในอาหารมรหางหนูตกไปอยู่ด้วย ไม่มีคำว่า สุขอนามัย นอนซ้อนกันในห้องขังขนาดประมาณ 4 x 8 เมตร 

อดีตผู้ต้องขังคนที่ 2 เป็นผู้ต้องขังคดีเหมือนกันกับรายแรก แต่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว แต่ต้องใส่กำไล EM ข้อเท้า ซึ่งมีบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่เรือนจำอ้างว่า วิ่งเต้นคนในเรือนจำได้ รู้จักเจ้าหน้าที่คุมประพฤติ ยื่นข้อเสนอถอดกำไล EM ซึ่งอดีตผู้ต้องขังรายนี้ยอมจ่ายไปเป็นเงิน 20,000 บาท สุดท้ายกำไล EM ไม่ได้ถอด แต่ไปได้ถอดเมื่อครบตามเกณฑ์ พอจะไปขอเงินคืนก็ถูกบ่ายเบี่ยง

อดีตผู้ต้องขังคนที่ 3 เป็นผู้ต้องขังโดนตรง ซึ่งจ่ายเงิน 5,000 - 15,000 บาทเพื่อไม่ต้องทำงาน หรือ เลือกอยู่กองงานที่สบาย เช่น เย็บรองเท้า , พับถุง พับกล่องกระดาษ เป็นพันๆ หมื่นๆ ชิ้น อดีตผู้ต้องขังรายนี้บอกว่า เป็นเรื่องที่ดีถ้าอ้างว่า เป็นนโยบายของกระยุติธรรมที่ต้องการให้นักโทษมีรายได้ระหว่างถูกคุมขัง แต่วอนขอให้ลงมาดูข้อเท็จจริง เพราะมีกระบวนการตัดตอน กินส่วนแบ่ง สุดท้ายอดีตผู้ต้องขังได้เงินเพียง 30 - 40 บาทต่อเดือนเท่านั้น และหากใครมีร้านอาหารข้างนอก ก็ต้องให้เจ้าหน้าที่เรือนจำกินฟรี ดูแลทุกอย่างแลกกับการให้ผู้ต้องขังอยู่สบาย 

นอกจากนี้ ยังมีการทำโทษที่คนภายนอกไม่เคยรู้ ซึ่งเรียกว่า "ไม้ก๊อง" คือ แท่งปูนหล่อทรงกลมพันด้วยยางรถยนต์ น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม ฟาดลงกลางหลังนักโทษ บางคนถึงกับปอดฉีก ผู้คุมก็จะบอกกับญาติว่า นักโทษทะเลาะวิวาทย์กัน 

ทั้งนี้ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ยังได้เปิดเผยถึงสาเหตุที่พาอดีตผู้ต้องขังมาไลฟ์สดเปิดโปงขบวนการส่วยเรือนจำและมุมมืดข้างใน เพื่อต้องการตีแผ่และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมลงมาดูข้อเท็จจริงและแก้ปัญหาเรื่องนี้ 

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ นายอัจฉริยะ จะพาอดีตผู้ต้องขังเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับผู้คุมและผู้บัญชาการเรือนจำดังกล่าวด้วย โดยให้ ทนายเดชา เป็นทนายความและดูแลเรื่องข้อกฎหมาย